×

นิชิโนะเผยสาเหตุเปลี่ยน 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมอิรักถึง 7 คน พร้อมหวัง ‘ทิตาธร’ เป็นทายาทแบ็กซ้ายของธีราทรในอนาคต

15.01.2020
  • LOADING...

อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชี้แจงสาเหตุที่เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงจากเกมล่าสุดถึง 7 คน แต่ก็ยังเก็บแต้มสำคัญ พร้อมผ่านเข้าสู่รอบต่อไปของศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้สำเร็จ

 

เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ช้างศึก U23 ยันเสมออิรัก 1-1 ทำให้มี 4 คะแนน และผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ในฐานะรองแชมป์กลุ่มของกลุ่มเอ

 

หลังจบเกม อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวว่า ตั้งแต่เก็บตัวมา ทั้งสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะทุกคนก็พยายามทำเต็มที่ ทำให้ได้ผลลัพธ์ในวันนี้ อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งก็คือ การได้ผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ

 

“การเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงในวันนี้ จากที่นัดแรกและนัดที่ 2 ที่ผ่านมา เราทำงานเป็นทีมได้ดี นักเตะทุกคนฟื้นฟูได้ดี แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนมีอาการล้า วันนี้ก็เลยตัดสินใจใช้ตัวสำรองที่ยังไม่ได้ลงสนาม ซึ่งในตอนซ้อมหลายคนก็ทำได้ดี เราก็อยากให้โอกาส ซึ่งในช่วงก่อนเกม ก็ได้กำชับนักเตะว่า ไม่ต้องกลัวและจงมีสมาธิ โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่เราจะต้องวัดกัน ซึ่งทุกคนก็ปรับตัว และสุดท้ายก็สามารถยันสกอร์ไว้ได้

 

“แผนการเล่นที่ใช้ เบน เดวิส กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในแดนหน้า ที่ผมตัดสินใจใช้ทั้งคู่ ก่อนอื่นเลยทั้งคู่ไม่ใช่สายวิ่ง แต่ทั้งสองคนมีเซนส์บอลที่ทันกัน และสามารถเก็บบอลได้ เราเลยตัดสินใจให้ลง ในกรณีของเบน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าตัวก็เจ็บคอ ไม่สบาย และไม่สามารถไปยืดเส้นยืดสายกับทีมได้ แต่ที่ผ่านมา ทั้งคู่สามารถทำได้ดี ประสานงานได้ดีเยี่ยม ในการซ้อม ก็เลยลองใช้ทั้งคู่ลงสนามพร้อมกัน โดยเน้นที่การครองบอล และใช้ผู้เล่นด้านข้างเป็นตัวเข้าทำ ซึ่งต้องยอมรับว่าเสี่ยง แต่ก็ได้ผล แต่ครึ่งหลังที่เราเปลี่ยนตัวเบนออก เป็นเพราะเขามีใบเหลือง และสุ่มเสี่ยงที่จะโดนไล่ออก เราก็เลยต้องลดความเสี่ยงด้วยการเปลี่ยนตัวเขาออก

 

“การผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ เรายังไม่รู้ว่าเราจะเจอใคร แต่ด้วยการเป็นเจ้าภาพ เราก็จะได้เปรียบ เพราะตารางการแข่งขัน เราจะได้พักมากกว่า ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะใช้เวลาในการพักฟื้นทั้งร่างกายและจิตใจให้พร้อมอีกครั้งสำหรับเกมต่อไป และวันนี้เราได้พักกำลังหลักหลายคน ทำให้เชื่อว่า กำลังหลักน่าจะสดชื่นขึ้นบ้างเล็กน้อย และพร้อมสำหรับเกมนัดต่อไป ซึ่งเราจะพยายามเล่นบอลบนพื้นตามสไตล์ของตัวเอง พาบอลไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเข้าทำแบบรวดเร็ว ส่วนเกมรับ ผมยอมรับว่า ยังเป็นจุดอ่อน ซึ่งก็แก้ไขได้ไม่ง่ายเลย เราก็ต้องพยายามช่วยกันวิ่ง ช่วยกันซ้อน ด้วยการครองเกมให้ได้มากที่สุด

 

“เกมรับที่ไม่ค่อยได้เติมขึ้นไป เราพยายามใช้ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่มีสปีดในการเข้าทำ ส่วนการที่แบ็กจะเข้าทำก็ยาก เพราะปีกของเขามีความเร็วมาก และด้วยพละกำลังที่ไม่เท่ากัน พอท้ายเกมผู้เล่นหลายคนก็เป็นตะคริว แต่ยังฝืน ส่วน ทิตาธร อักษรศรี ผมคิดว่า เขามีรูปร่างที่ดี แข็งแกร่ง และถนัดเท้าซ้าย ซึ่งเหมาะกับการเป็นแบ็กซ้าย แต่เขายังมีจุดอ่อนเรื่องเกมรับ และหวังว่าจะเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต หวังว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งแบ็กซ้ายของ ธีราทร บุญมาทัน ในอนาคต

 

“ก่อนอื่นผมขอพูดคำเดิม จากซีเกมส์จนถึงตอนนี้ นักกีฬา ความเข้าใจและความฟิตไม่ได้แตกต่าง ความผิดพลาดในซีเกมส์คือผมจัดการได้ไม่ดี เพราะเพิ่งรู้จักนักเตะตอนเดินทาง และต้องเล่นหญ้าเทียมแบบวันเว้นวัน ทำให้เราทำผลงานในซีเกมส์ได้ไม่ดี ในอนาคตเราอยากท้าทายให้มากกว่านี้ สู้กับทีมระดับสูงให้มากกว่านี้ การแข่งขันในครั้งนี้ทำให้เรามีประสบการณ์จากทีมระดับสูง นักเตะเรายังขาดประสบการณ์ หลังจบทัวร์นาเมนต์ เมื่อยังไม่มีแผน มันก็ไม่ต่อเนื่อง ซึ่งเราควรมีในการเจอกับทีมใหญ่ และไม่ใช่แค่ชุดนี้ แต่ยังรวมถึงชุดที่อายุต่ำกว่านี้ด้วย”

 

หลังจากนี้ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะได้พัก 3 วัน ก่อนที่จะแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบ 8 ทีมสุดท้าย พบกับทีมแชมป์กลุ่มบี ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดียม ในวันที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 17.15 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising