วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคู่สมรส และคณะรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ สอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยมีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศจะร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ จากนั้นร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ จำนวน 4 ฉบับ
พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สปป.ลาว ครบ 75 ปี ออกแบบในโทนสีเหลืองทอง ด้านบนเป็นรูปจั่วทรงไทย-ลาว 2 ชั้น ประกอบด้วยวัดพระธาตุศรีสองรักและวัดพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ มีตัวเลข 75 อยู่ตรงกลางพร้อมด้วยดอกราชพฤกษ์ไทยและดอกจำปาลาว ล้อมรอบด้วยธงชาติของทั้งสองประเทศที่จัดวางเป็นรูปหัวใจ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีไทยและ สปป.ลาว แถลงข่าวร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สปป.ลาว เป็นประเทศแรกที่นายกรัฐมนตรีได้เยือนอย่างเป็นทางการภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ในโอกาสฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สปป.ลาว ในปีนี้ ต่างเห็นพ้องที่จะเร่งขับเคลื่อนความร่วมมือไทย-สปป.ลาว ให้เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน และส่งเสริมความกินดี อยู่ดี ของประชาชนใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
ประการแรก เสริมสร้างให้พื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศมีความมั่นคง
- ด้านยาเสพติด และสนับสนุนการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนยาเสพติด ซึ่งไทยเริ่มดำเนินการแล้วที่แขวงหัวพันและแขวงบ่อแก้ว
- ด้านปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นปัญหาร่วมกันในภูมิภาค ซึ่งไทยเสนอให้ใช้ประโยชน์จากกรอบแม่โขง-ล้านช้าง ที่ไทยเป็นประธานในปีนี้ เพื่อผลักดันความร่วมมืออย่างจริงจังในภูมิภาค
- ด้านหมอกควันข้ามแดน จะผลักดันให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงฐานข้อมูลและระบบเตือนภัยล่วงหน้าของ สปป.ลาว เข้ากับระบบของ GISTDA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาด้วย
- ด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัย นายกรัฐมนตรียินดีที่ระบบโทรมาตรที่ไทยสนับสนุนการติดตั้ง มีส่วนช่วยการแจ้งเตือนระดับน้ำใน สปป.ลาว
ประการที่สอง สร้างการเจริญเติบโตและความมั่งคั่งร่วมกัน
- ด้านการค้า เห็นพ้องที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 ขอบคุณนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ที่ช่วยติดตามและอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตรของไทยผ่านแดนไปจีน นอกจากนี้ จะร่วมมือกันในการลดการเผาในอุตสาหกรรมการเกษตรของสองประเทศ
- ด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ หลายโครงการมีความคืบหน้า ทั้งการเสริมกำลังสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 และการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ที่จะพร้อมเปิดใช้งานในปลายปีนี้ พร้อมสนับสนุนโครงการต่างๆ ให้มีความก้าวหน้า เช่น การเชื่อมต่อระบบรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กับระบบรถไฟ สปป.ลาว-จีน
- ส่งเสริมให้มี Joint Venture ระหว่างภาคเอกชนไทย-สปป.ลาว เพื่อบริหารจัดการการขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาค
ประการที่สาม สร้างเสริมสายสัมพันธ์พิเศษระดับประชาชนไทยและ สปป.ลาว ให้มีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนาน และประชาชนสองฝั่งก็มีความผูกพันเป็นดั่งเครือญาติ
- ไทยพร้อมมอบทุนการศึกษาจำนวนกว่า 75 ทุน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันยาวนาน และช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเยาวชนของ สปป.ลาว
- ด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรด้านการแพทย์และการสนับสนุนเซรุ่มแก้พิษงู
- ด้านการเกษตร ผ่านโครงการในพระราชดำริต่างๆ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สปป.ลาว