นายกฯ นำประชุม ครม. คลังเตรียมเสนอร่าง ดันกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้า แม้กฤษฎีกาค้าน

วันนี้ (13 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีการแจ้งเลื่อนประชุมคณะรัฐมนตรีจากวันอังคารที่ 14 มกราคม 

สำหรับวาระที่น่าสนใจอื่นๆ ในวันนี้กระทรวงการคลังจะนำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมฯ สำหรับร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดประเภทธุรกิจสถานบันเทิงไว้ 10 ประเภท 

1. ห้างสรรพสินค้า
2. โรงแรม
3. ร้านอาหาร 
4. ไนต์คลับ ดิสโก้เธค ผับ หรือบาร์
5. สนามกีฬา
6. ยอชต์และครูซซิ่งคลับ
7. สถานที่เล่นเกม
8. สระว่ายน้ำและสวนน้ำ
9. สวนสนุก
10. พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สินค้า OTOP และกิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด 

แต่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตั้งข้อสังเกต 6 ข้อที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว เช่น นโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา นโยบายเร่งด่วนที่ 7 ระบุว่า รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย 

รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินมหาศาลที่กระจายลงสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากนโยบายดังกล่าวมุ่งหมายที่จะพัฒนาพื้นที่เป้าหมายให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นหลัก ซึ่งเป็นไปในทำนองเดียวกับรีสอร์ตขนาดใหญ่บางแห่งในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, Sunway Resort ในมาเลเซีย และ Marina Bay Sands ในสิงคโปร์ 

ประกอบด้วยโรงแรม ศูนย์การค้า ศูนย์การแสดงเพื่อความบันเทิง ศูนย์ประชุม โดยสถานบันเทิงครบวงจรเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้น และอาจมีสถานที่ใดที่จัดให้มีการเล่นคาสิโนด้วยก็ได้ สำนักงานจึงเห็นว่าการที่ร่างกฎหมายดังกล่าวมุ่งหมายเฉพาะสถานบันเทิงครบวงจรนั้น ยังไม่สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล

ส่วนวาระพิจารณาอื่นๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เสนอข้อเสนอการปรับปรุงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย

กระทรวงคมนาคม เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นสำหรับใช้ในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่สถานีรถไฟที่มีศักยภาพ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอการขอปรับแผนการดำเนินงานและแผนการเบิกจ่ายงบประมาณของการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กิจกรรมที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน

สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 5/2568 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เสนอขอให้พิจารณาประกาศพื้นที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เตรียมเสนอ ครม. เพื่อขอให้ความเห็นชอบการแก้ไข พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 เพื่อยกระดับการจัดการปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเน้นการเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย พร้อมเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลจากเดิมจำคุก 1 ปี เป็น 5 ปี รวมถึงให้สถาบันการเงินและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือต้องเข้าร่วมรับผิดชอบเหยื่อที่ถูกหลอกด้วย

นอกจากนี้ช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีและคณะจะบินลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำที่บริเวณบึงบอระเพ็ด ตำบลแควใหญ่ จังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ในโครงการ ‘ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน’ ในปีงบประมาณ 2568

คณะรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 5 คน

1. สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
2. พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
3. เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
4. อัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
5. ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย