หุ้นไทยเช้านี้ (8 กรกฎาคม) เปิดดิ่งลงไปแตะระดับ 1,555.16 จุด ติดลบ 21.44 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มหลักที่นำลงมาในรอบนี้คือ กลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า สัญญาณการเพิ่มความเข้มงวดมาตรการควบคุมการระบาดมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์การระบาดของโควิดที่ยังน่ากังวลอยู่ ไม่ว่าจะเป็น
- จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูง ล่าสุดเพิ่มขึ้น 7,058 ราย ยังสูงกว่าผู้รักษาหายรายใหม่ที่ 4,148 ราย กดดันให้จำนวนผู้ที่อยู่ระหว่างรักษาทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีอยู่ 67,614 ราย
- การระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็ว เริ่มรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากสัดส่วนผู้ป่วยจากสายพันธุ์เดลตาในเขตกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นจนล่าสุดแตะระดับราว 70% สูงกว่าสายพันธุ์อัลฟาที่ราว 30%
- จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ตรวจพบในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น สะท้อนถึงจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มขยายวงออกไป โดยปัจจุบันสัดส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงเทพฯ ต่อต่างจังหวัดอยู่ที่ 50:50 จากก่อนหน้าที่อยู่ราว 60:40
สถานการณ์ข้างต้นสอดคล้องกับที่ บล.เอเซีย พลัส เคยนำเสนอไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อของไทยจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจนไปถึงจุดสูงสุดในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม 2564 โดยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้การล็อกดาวน์อาจตามมาได้ คล้ายกับช่วงไตรมาส 2 ปีก่อน
หากล็อกดาวน์เข้มงวดและยืดเยื้อ ประเมินว่า GDP Growth ของไทยปีนี้มีโอกาสติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยปัจจุบันสำนักเศรษฐกิจส่วนใหญ่ และ Consensus ที่คาด GDP Growth อยู่ในกรอบ 1.5-2% ซึ่งการคาดการณ์ส่วนมากยังไม่รวมผลกระทบของการล็อกดาวน์ 10 จังหวัด ระยะเวลา 1 เดือน ในรอบที่ผ่านมา และปัจจุบันรัฐบาลอาจพิจารณาออกมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
