หุ้นไทยวันนี้ (19 เมษายน) ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,574.91 จุด เพิ่มขึ้น 25.95 จุด หรือ 1.68% มูลค่าการซื้อขาย 87,452.88 ล้านบาท
โดยหุ้นที่มีแรงซื้อมากสุด 5 อันดับแรกคือ INTUCH +7.69%, DELTA +7.26%, KBANK +1.86%, SAWAD +1.52%, CPF +0.85% ทั้งนี้ หุ้น DELTA มีผลต่อดัชนี 2.9 จุด และหุ้น INTUCH มีผลต่อดัชนี 1.2 จุด
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเปิดการซื้อขายภาคช่วงเช้าและต่อเนื่องถึงช่วงบ่าย สาเหตุหลักมาจากนักลงทุนเริ่มคลายกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ที่วันนี้ ศบค. แจ้งตัวเลขต่ำสุดในรอบ 5 วัน ทำให้นักลงทุนเริ่มประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 น่าจะผ่านจุดพีกไปแล้ว และเริ่มคาดหวังถึงสถานการณ์ที่คลี่คลายขึ้นตามลำดับ
ประกอบกับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศมาตราการรับมือกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งไม่มีการกำหนดเคอร์ฟิว ทำให้คลายความกังวลเรื่องการใช้มาตรการเข้มข้นเหมือนระลอก 1
“หุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญวันนี้ ส่วนมากก็คือหุ้นที่เคยปรับลดลงมากตอนโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มแบงก์ ค้าปลีก”
นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อเพื่อดักอานิสงส์ผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่กำลังทยอยประกาศกันออกมา ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนมากมองไปในทิศทางเดียวกันว่ากำไรไตรมาส 1 ปีนี้จะดีขึ้น QoQ และลดลง YoY รวมทั้งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดสหรัฐฯ และตลาดหุ้นเอเชีย
อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนให้ลงทุนแบบเล่นรอบหรือหมุน เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่สามารถคาดการณ์ที่แม่นยำต่อการเคลื่อนไหวดัชนีได้ ยกตัวอย่างระลอกแรกที่แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเริ่มลดลง แต่ความกังวลต่อการแพร่ระบาดทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ยังกดดันดัชนีต่อ
“ดัชนีตอนนี้ถ้าเทียบกับตอนที่ปรับลดลงมาเพราะโควิด-19 ถือว่าปรับขึ้นมาเกือบครึ่งของที่เคยลดลงไปแล้ว ก็ถือว่าสมเหตุสมผล ขณะที่ปัจจัยไม่แน่นอนในตลาดหุ้นไทยยังมีอยู่ อาทิ แรงขายที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างหนักในเดือนพฤษภาคม ตามสถิติ Sell In May ในปีนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น”
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล