×

ตำรวจไซเบอร์เผย มีคนไทยกว่า 200 ราย เปลี่ยนใจกลับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลัง 2 ประเทศประกาศหยุดยิง

โดย THE STANDARD TEAM
29.07.2025
  • LOADING...
ตำรวจไซเบอร์แถลงข่าวเกี่ยวกับคนไทยกลับไปทำงาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังหยุดยิง

วันนี้ (29 กรกฎาคม) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และสถานการณ์คนไทยที่เกี่ยวข้องกับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในต่างประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความร่วมมือจากประชาชนในการสนับสนุนแคมเปญ Truth From Thailand ของกองทัพบก เพื่อเผยแพร่ความจริงสู่สายตาชาวโลกว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงโจมตีประเทศไทยก่อน โดยมีการยิงจรวดใส่พลเรือน โรงพยาบาล และโรงเรียน ซึ่งส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์และเด็กได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

 

โดย บช.สอท. ยังคงเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น บอสชาวจีน หรือ เจ้าของอาคาร ที่เป็นที่ตั้งของ Scam Center ซึ่งกระจายตัวอยู่ตามแนวชายแดนไทย

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตนได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และจเรตำรวจแห่งชาติ ให้ลงพื้นที่เพื่อรับตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งจากการคัดกรองพบว่ามีคนไทย 13 ราย ที่มีหมายจับในคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงคนไทย และอีก 70 ราย มีการร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีเดียวกัน

 

ที่น่าตกใจคือ ข้อมูลจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ระบุว่าเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 มีคนไทยกว่า 200 ราย ที่ข้ามแดนไปโดยผิดกฎหมายและไม่มีหลักฐานการออกนอกประเทศ มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย แต่เมื่อข่าวการเจรจาหยุดยิงปรากฏขึ้น คนไทยกลุ่มดังกล่าวกลับเปลี่ยนใจกลับไปทำงานเดิมในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหลือเพียง 74 รายที่เดินทางกลับเข้ามาจริง 

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ชี้ว่านี่เป็น ลางบอกเหตุ ที่แสดงให้เห็นว่าการหลอกลวงคนไทยของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังเปิดเผยถึงบทวิเคราะห์ของนักวิชาการต่างประเทศที่ระบุว่า ส่วนหนึ่งของเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีสาเหตุมาจากการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างเข้มข้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศกัมพูชา แม้เหตุปะทะจะหยุดลง แต่สถานการณ์การหลอกลวงยังคงมีอยู่ และตำรวจไซเบอร์จะยังคงเดินหน้าปราบปรามอย่างเข้มข้นต่อไป

 

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ สามารถแจ้งความได้ที่ www.thaipoliceonline.com หรือโทรสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising