สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตประเทศไทย ปี 2561 ในงาน ETDA สู่ปีที่ 8 ‘Future Economy and Internet Governance: Big Change to Big Chance’ พบว่าพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยนานขึ้นเป็น 10 ชั่วโมง 5 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3 ชั่วโมง 41 นาทีต่อวัน โดย Gen Y เป็นแชมป์การใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดติดกันเป็นปีที่ 4 เป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านชีวิตไปสู่ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น
พร้อมกันนี้คนไทยยังนิยมใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter และ Pantip สูงมากถึง 3 ชั่วโมง 30 นาทีต่อวัน
ขณะที่การรับชมวิดีโอสตรีมมิง เช่น YouTube หรือ LINE TV มีชั่วโมงการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 35 นาทีต่อวัน ส่วนการใช้แอปพลิเคชันเพื่อพูดคุย เช่น Messenger และ LINE เฉลี่ยอยู่ที่ 2 ชั่วโมงต่อวัน การเล่นเกมออนไลน์อยู่ที่ 1 ชั่วโมง 51 นาทีต่อวัน และการอ่านบทความหรือหนังสือออนไลน์อยู่ที่ 1 ชั่วโมง 31 นาทีต่อวัน
เมื่อดูการเปลี่ยนผ่านการใช้ชีวิตประจำวันไปสู่ชีวิตดิจิทัล จะเห็นได้ว่า 5 อันดับแรกที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทำกิจกรรมทางออนไลน์มากกว่าแบบดั้งเดิม ได้แก่ การส่งข้อความ 94.5%, การจองโรงแรม 89.2%, การจองหรือซื้อตั๋วโดยสาร 87.0%, การชำระค่าสินค้าและบริการ 82.8% และการดูหนังหรือฟังเพลง 78.5% ตามลำดับ
นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่ามีหลากหลายกิจกรรมที่คนไทยยังมีความสุ่มเสี่ยงในการถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากพฤติกรรมดังนี้
- ไม่เปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 3 เดือน 45.34%
- การให้วันเดือนปีเกิดที่แท้จริงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 45.04%
- เมื่อทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ธนาคารก็ละเลยที่จะสังเกตว่าเป็นเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https:// หรือไม่ 44.48%
- เปิดอีเมลหรือคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จัก 43.36%
- อัปโหลดรูปถ่ายหรือวิดีโอทันทีหลังถ่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 35.70%
สำหรับกลุ่ม Baby Boomer เป็นกลุ่มที่น่ากังวลมากที่สุด เช่น เมื่อทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ธนาคารก็ละเลยที่จะสังเกตว่าเป็นเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https:// หรือไม่ 55.94%, เมื่อสิ้นสุดการใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้อื่นก็ไม่ลบประวัติการใช้งาน 46.96%, ไม่ลงชื่อออกจากการใช้งานจากเครื่องดังกล่าว 26.14% และการที่ไม่ได้ล็อกหน้าจออัตโนมัติ 29.71%
ขณะที่ Gen Z จะมีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องของการให้วันเดือนปีเกิดที่แท้จริงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 55.97%, การไม่เปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 3 เดือน 53.73%, เปิดอีเมลหรือคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จัก 51.49%, เมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้อื่นแล้วมักตั้งค่าให้อุปกรณ์ดังกล่าวจดจำรหัสผ่านเพื่อจะได้ไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกครั้ง 28.36% และคลิกลิงก์ของธนาคารที่ได้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของธนาคารโดยตรง 16.42%
ส่วน Gen Y มักจะชอบทำกิจกรรมเสี่ยงผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ เช่น การอัปโหลดรูปถ่ายหรือวิดีโอทันทีหลังถ่าย 37.90%, การอัปโหลดภาพตั๋วเครื่องบินหรือบอร์ดดิ้งพาสก่อนการเดินทาง 33.77% และการแชร์ตำแหน่ง (Location) แบบเรียลไทม์ 13.57% ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นการสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับเจ้าของข้อมูล ดังนั้นจึงควรตั้งค่าดังกล่าวเป็นส่วนตัว เปิดให้เฉพาะเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น
อ้างอิง: