ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 3.3% จากเดิมเคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.1% เมื่อเดือนมิถุนายน โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 11 ล้านคน การบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี
ขณะเดียวกัน ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัวได้ 3.6% โดยมองว่าการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ ขณะที่การส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความท้าทาย ‘ เศรษฐกิจไทย ปี 2566 ’ กับการปรับตัวของภาคธุรกิจ
- ฉวยจังหวะค่าเงินอ่อน ส่องโอกาสลงทุนหุ้นโลก สร้างพอร์ตเติบโตระยะยาว
- ‘ส่วนต่างรายได้’ กับนโยบายรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
“เราคาดว่าปี 2566 การส่งออกจะขยายตัวได้ 1.2% การลงทุนภาครัฐขยายตัว 2.4% การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 3.2% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3.0% และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 22 ล้านคน โดยคาดว่า GDP ในช่วงครึ่งปีแรกจะโตเฉลี่ยที่ 3.5% ขณะที่ครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 3.7% ทำให้ภาพรวมทั้งปีโตอยู่ที่ 3.6%” ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุ
ธนวรรธน์กล่าวว่า ปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทยใน 2566 ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดปรับตัวดีขึ้น, นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากขึ้น ทำให้เห็นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวชัดเจน, การใช้จ่ายของภาคเอกชนมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน, รายได้ของเกษตรกรยังขยายตัวได้ดี, ความเสี่ยงด้านภัยแล้งลดลง, เม็ดเงินจากการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2566 มีผลช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น, ธนาคารกลางหลายประเทศ ถูกกดดันให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย, เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะถดถอย, ความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน, ความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนโลก
“นอกจากกรณีฐานแล้ว เรายังประเมินฉากทัศน์ในกรณีเลวร้ายสุดและกรณีที่ดีกว่าคาดในปีหน้าไว้ด้วย โดยในกรณีเลวร้ายที่สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนบานปลาย ปัญหาโควิดในจีนกลับมารุนแรงและการเมืองในประเทศมีปัญหาติดขัด GDP ไทยอาจขยายตัวได้เพียง 3.1% แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นมีค่อนข้างน้อยเพียง 15% ขณะที่ในกรณีดีกว่าคาดคือจีนผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้เร็วขึ้น จำนวนท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 24-25 ล้านคน GDP อาจขยายได้ถึง 4.1% ซึ่งเรามองความเป็นไปได้อยู่ที่ 20-25%” ธนวรรธน์ระบุ