×

โอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมอาหารไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน

15.09.2025
  • LOADING...
อุตสาหกรรมอาหาร

อุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากเมกะเทรนด์หลักอย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลต่อกระบวนการผลิต การแปรรูป และพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยถือเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคต แต่ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะก่อให้เกิดความท้าทาย แต่อุตสาหกรรมนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ได้  

 

ทั้งนี้ งานวิจัย Value in Motion ของ PwC ชี้ว่าระบบอาหารโลกกำลังเข้าสู่ยุค ‘how we feed’ ซึ่งจะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยคาดว่าโดเมนแห่งการเติบโตนี้จะสร้างมูลค่าเพิ่ม (gross value added: GVA) สูงถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2578  

 

สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทย: ข้อสังเกตและโอกาสสำหรับธุรกิจ 

 

รายงานผลสำรวจเสียงของผู้บริโภค ปี 2568 ฉบับประเทศไทย ของ PwC พบว่า ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญกับอาหารคุณภาพที่สอดคล้องกับสุขภาพ ความสะดวก และความยั่งยืน (sustainability) แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น โดย 57% รับรู้ถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยังคงเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร นอกจากนี้ กลุ่มผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจากอาหารที่บริโภค โดย 66% กังวลเรื่องยาฆ่าแมลง 55% กังวลเกี่ยวกับวัตถุเจือปนและสารกันบูด และ 51% กังวลผลกระทบของอาหารแปรรูปขั้นสูง ขณะเดียวกัน 43% ก็พร้อมจะเปลี่ยนแบรนด์อาหารเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ 

 

ในประเด็นด้านเทคโนโลยี ผลการสำรวจฉบับนี้พบว่าผู้บริโภคไทยมีการใช้งานเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดย 29% ซื้ออาหารออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 15% และมากถึง 98% เห็นว่า AI มีบทบาทในชีวิตประจำวันของพวกเขา นอกจากนี้ ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดย 92% ของผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีความเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มสำหรับอาหารที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง 70% ของผู้บริโภคมีเจตจำนงที่จะลดขยะอาหาร (food waste) ด้วยการเลือกซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น 

 

เปลี่ยนผ่านธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค 

 

มาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคไทยในปัจจุบันต้องการสินค้าราคาย่อมเยา ดีต่อสุขภาพ และสะดวกสบาย ธุรกิจจึงควรหาสมดุลระหว่างความคุ้มค่าและความต้องการเหล่านี้ ทั้งนี้ รายงาน Voice of the Consumer Survey 2025 ได้แนะนำสามแนวทางหลักสำหรับอุตสาหกรรมอาหารไทยในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้ 

 

  1. ตรวจสอบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าและราคาที่เหมาะสม แทนการปรับขึ้นราคาหรือลดปริมาณสินค้า โดยเน้นการเสริมคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ เช่น การเพิ่มโปรตีนหรือไฟเบอร์ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดปริมาณน้ำตาลและต้นทุนโดยไม่ลดทอนคุณภาพและรสชาติ นอกจากนี้ ควรมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมเฉพาะกลุ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทรนด์สุขภาพ โภชนาการ และอาหารเฉพาะทาง
  2. สร้าง “โดเมน” ในตลาดการแข่งขัน การขับเคลื่อนการเติบโตและเสริมสร้างความภักดีของลูกค้าสามารถดำเนินการผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ภาคการดูแลสุขภาพไปจนถึงเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของผู้บริโภค เช่น บริการวางแผนมื้ออาหารและสมัครสมาชิกจัดส่งสินค้า ทั้งนี้ จากผลสำรวจของเราพบว่า บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคบรรจุภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงมีแนวโน้มที่จะสร้างพันธมิตรกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ปลดล็อกศักยภาพการทำกำไร และถ่ายทอดประสิทธิภาพต้นทุนสู่ผู้บริโภค เป็นต้น
  3. ยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภค โดยการใช้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ขั้นสูง เพื่อคาดการณ์และปรับแต่งบริการให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล และช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ค่านิยมของตนเอง เช่น สุขภาพ ความยั่งยืน หรือแหล่งที่มาท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการบูรณาการเทคโนโลยี AI และอุปกรณ์สวมใส่ ให้เกิดตัวเลือกที่สะดวกและสามารถเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ตามคุณค่าที่ลูกค้าให้ความสำคัญ 

 

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมอาหารไทย การปรับตัวและการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องจะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถฝ่าฟันอุปสรรคและไขว่คว้าโอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นคง ในขณะเดียวกัน การนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับคุณภาพ สุขภาพ และความยั่งยืน จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้น การวางแผนเชิงกลยุทธ์และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาธุรกิจอาหารไทยก้าวสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต 

 

ภาพ: Paper Boat Creative/Getty Images 

อ้างอิง: 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising