×

ชายแดนไทย-กัมพูชาปะทะเดือดวันที่ 3 ทัพฟ้าส่ง F-16 ถล่มฐานที่มั่นข้าศึก หลังถูกระดมยิงด้วยจรวด BM-21 สระแก้วประกาศเคอร์ฟิว 4 อำเภอ

โดย THE STANDARD TEAM
10.12.2025
  • LOADING...
ชายแดนไทย-กัมพูชาปะทะเดือดวันที่ 3 ทัพฟ้าส่ง F-16 ถล่มฐานที่มั่นข้าศึก หลังถูกระดมยิงด้วยจรวด BM-21 สระแก้วประกาศเคอร์ฟิว 4 อำเภอ

วันนี้ (10 ธันวาคม) กองทัพภาคที่ 1 และ 2 รายงานภาพรวมการปะทะแนวชายแดน โดยสถานการณ์ชายแดนด้านตะวันออก (จ.สระแก้ว – กองทัพภาคที่ 1) กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์ในวันที่ 3 ของปฏิบัติการปกป้องอธิปไตย

 

โดยจุดปะทะสำคัญอยู่ที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) และอาวุธวิถีโค้งกว่า 100 นัด เข้าใส่พื้นที่บ้านคลองแผงและบ้านหนองหญ้าแก้ว ส่งผลให้บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมเสียหาย แต่ยังไม่มีรายงานประชาชนบาดเจ็บ

 

เหตุการณ์สำคัญเมื่อเวลา 10.00 น. กองทัพอากาศไทยได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 เข้าปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังบูรพา โจมตีทำลายกองบังคับการหมวดป้องกันชายแดนที่ 503 ของกัมพูชา (ตรงข้ามบ้านหนองจาน อ.โคกสูง) จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก เพื่อหยุดยั้งการโจมตี นอกจากนี้ยังมีการยิงปืนใหญ่สกัดกั้นรถสายพานลำเลียงพล 3 คันของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามเติมกำลังในพื้นที่ อ.คลองหาด

 

ล่าสุด กองกำลังบูรพาได้ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 19.00 – 05.00 น. ใน 4 อำเภอชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อความปลอดภัยและเอื้อต่อการปฏิบัติการทางทหาร

 

ส่วนสถานการณ์ชายแดนด้านอีสานใต้ (กองทัพภาคที่ 2) การปะทะยังคงรุนแรงครอบคลุมหลายพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 7-10 ธันวาคม ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธหนัก BM-21 ยิงเข้ามากว่า 3,160 นัด และใช้โดรนโจมตี (FPV) กว่า 60 ครั้ง

 

  • พื้นที่ปราสาทตาควาย และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์: มีกระสุน BM-21 ตกในพื้นที่ประมาณ 20 นัด และมีการใช้โดรนพลีชีพโจมตีชุดปฏิบัติการโดรนฝ่ายไทย
  • พื้นที่เขาพระวิหาร: กองทัพภาคที่ 2 ได้ยิงทำลายเครนก่อสร้าง ที่ฝ่ายกัมพูชาดัดแปลงติดตั้งเรดาร์และกล้องตรวจการณ์ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ทหารไทยสูญเสียก่อนหน้านี้ เพื่อตัดขีดความสามารถข้าศึก
  • วิกฤตโรงพยาบาล: ตรวจพบจรวด BM-21 ตกห่างจาก โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ เพียง 500 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที

 

สรุปยอดความสูญเสียและการอพยพ

 

  • ฝ่ายทหาร: มีกำลังพลบาดเจ็บสะสม (ในพื้นที่ จ.สระแก้ว) รวม 14 นาย ล่าสุดคือ จ.ส.อ.รณชัย ทัศกร ที่บาดเจ็บจากแรงระเบิด อาการปลอดภัยทั้งหมด โดยมีทีมแพทย์และเฮลิคอปเตอร์ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์วิกฤต
  • ฝ่ายพลเรือน: ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มีการอพยพประชาชนใน จ.สระแก้ว แล้วกว่า 180,683 คน (คิดเป็น 83% ของพื้นที่เสี่ยง) ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 แห่ง
  • ชาวกัมพูชา: ทยอยเดินทางกลับประเทศผ่านด่านบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ แล้วกว่า 800 คน

 

กองทัพบกยืนยันความพร้อมในการปกป้องอธิปไตย และจะดำเนินมาตรการตอบโต้ตามความจำเป็นภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ จนกว่าภัยคุกคามจะยุติลง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising