เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2568 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 13.6% ท่ามกลางสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันไทยยังเดินหน้าผลักดันการเจรจา FTA กับยุโรป และขยายความร่วมมือทางการค้ากับสหราชอาณาจักร หลังประสบความสำเร็จในการสรุป FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) และภูฏาน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยในเวทีโลก
การส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2568 มีมูลค่ารวม 25,277 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (862,367 ล้านบาท) เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยขยายตัว 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนสัญญาณบวกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยตลาดส่งออกสำคัญที่มีอัตราการเติบโตสูงในเดือนมกราคม ได้แก่
- สวิตเซอร์แลนด์ ขยายตัว +852.7%
- เอเชียใต้ +111.5%
- สหรัฐฯ +22.4%
- ลาตินอเมริกา +21.6%
- แอฟริกา +13.9%
- สหภาพยุโรป +13.8%
- จีน +13.2%
- สหราชอาณาจักร +9.8%
- CLMV +5.2%
- อาเซียน 5 +4.8%
ซึ่งการเติบโตของการส่งออกสอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคการผลิตทั่วโลกและความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น
พิชัยระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้านโยบาย ‘การทูตพาณิชย์เชิงรุก’ เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของไทย ท่ามกลางความท้าทายจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับ สภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ABC) และสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) ซึ่งมีผู้บริหารจาก 23 บริษัทชั้นนำของยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในอาเซียนและไทยเข้าร่วม อาทิ BDO, Danone, Michelin Siam, DHL Express, HSBC, The Coca-Cola Company, Bayer, Bosch, Friesland-Campina, Reckitt, SWIFT, APCO, BASF, Boehringer Ingelheim, JT International, Philip Morris International, Shell, Siemens Healthineers, Turkish Airlines, Vero Advocacy, Vriens & Partners, Amboss Holdings และ Asia Group Advisors (AGA)
ในการหารือ ตนได้ชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของรัฐบาลไทย ได้เชิญชวนให้กลุ่มนักธุรกิจขยายการลงทุนในอุตสาหกรรม AI, PCB และ Data Center ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู ให้บรรลุผลโดยเร็ว ตามแนวทางที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนยุโรป โดยตัวแทนภาคเอกชนยุโรปแสดงความยินดีที่การเจรจา FTA ไทย-อียู มีความคืบหน้า พร้อมสนับสนุนให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและอำนวยความสะดวกทางการค้า
และเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ตนได้เข้าร่วมงาน ‘The ETP Celebration Reception’ ณ ทำเนียบสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อเฉลิมฉลองการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วย ‘การเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น’ (MOU-ETP) ระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร ซึ่งข้อตกลงนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการพิจารณาเริ่มต้นการเจรจา FTA ไทย-UK ในอนาคตอันใกล้ และจะช่วยขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้นต่อไป