×

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ‘การบริโภคภาคเอกชน-การผลิตของภาคอุตสาหกรรม’ ปัญหาหลักของเศรษฐกิจไทย

20.05.2025
  • LOADING...
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยจากรายงาน GDP ล่าสุด เน้นปัญหาบริโภคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมที่กำลังถดถอย

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ รายงานว่า GDP ไทยไตรมาสแรกของปี 2025 ขยายตัว 3.1% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากการเติบโต 3.3% ในไตรมาสก่อนหน้า นับเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน

 

โดย ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “เศรษฐกิจไทยมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกในระดับที่สูงจึงมีโอกาสได้รับผลกระทบมาก โดยช่องทางการส่งผ่านผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ได้แก่ ผลต่อการส่งออกโดยตรงไปยังสหรัฐฯ ผลต่อการส่งออกภายใต้ห่วงโซ่อุปทาน การผลิตที่เชื่อมโยงกับสหรัฐฯ และผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก”

 

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความให้ความเห็นผ่าน Facebook ในเรื่อง ปัญหาหลักของเศรษฐกิจไทย โดยระบุว่า เมื่อวานนี้ สภาพัฒน์ได้ประกาศ GDP ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ขยายตัว +3.1% ออกมาได้ดีกว่าที่หลายคนคิด จากการเร่งส่งออก ที่ช่วยให้การส่งออกสินค้า +13.8% ซึ่งจะดีต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 โดยผู้ประกอบการสหรัฐคงพยายามเร่งนำเข้าก่อนที่จะหมด 90 วัน มีของไว้ก่อน ดีกว่า แม้ว่าจะถูก Tariffs 10% เพราะในอนาคตไม่รู้ว่าจะจบกันอย่างไร

 

ในข้อมูล GDP ของสภาพัฒน์ที่แถลงออกมา มีตัวเลข 2 ตัวที่น่าจับตามองที่จะกดดันเศรษฐกิจไทยไปในช่วงหลายปีข้างหน้า

 

  1. การบริโภคภาคเอกชน ที่ขยายตัวได้เพียง +2.6% ซึ่งน่ากังวลใจ 

 

เพราะปกติแล้ว การบริโภคภาคเอกชนจะมีขนาดประมาณ 55% ของเศรษฐกิจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยจะคึกคักหรือไม่ ก็จะขึ้นกับว่า คนใช้จ่ายหรือไม่ ซึ่งตัวเลขนี้ควรจะขยายตัวได้ 5-6% แต่ช่วง 4 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวได้เพียงประมาณ 3% กว่าๆ 

 

ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจไทยไม่ค่อยโต และอีกส่วนคงมาจากการที่เราเป็นหนี้กันมาก  มีหนี้ครัวเรือนสูง มีหนี้เสียเพิ่มขึ้น

 

  1. ตัวเลขที่ยิ่งน่ากังวลใจไปกว่านั้น ก็คือ การผลิตของภาคอุตสาหกรรม

 

ภาคนี้ คือ ภาคที่สร้างรายได้หลักของประเทศ ล่าสุดมีสัดส่วนประมาณ 28% ของ GDP ในช่วงที่เราขยายตัวดีๆ ภาคนี้จะเป็นหัวหอก เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะช่วยผลักเศรษฐกิจไทย โดยช่วงปี 2000-2007 ขยายตัวที่ +9.5% และช่วงปี 2010-2018 ขยายตัวที่ +4.1% แต่ 5 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวเฉลี่ยเพียง +0.5% 

 

ดร.กอบศักดิ์ ระบุว่า เครื่องยนต์ดับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าอุตสาหกรรมไทยกำลังตกรุ่น โรงงานกำลังปิด หรือ ลดกำลังการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มยานยนต์ที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ 

 

ถ้าเราอยากเห็นเศรษฐกิจไทยคึกคักอีกรอบ นี่คือโจทย์สำคัญที่เราต้องแก้ให้ได้ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และ สร้างหรือผลัดใบภาคอุตสาหกรรมไทยที่จะมาเป็นรายได้ใหม่ๆ ให้กับประเทศทดแทนการปิดตัวของโรงงานแบบเดิมๆ 

 

ถ้าเราแก้ไม่ได้ เศรษฐกิจไทยก็ยากจะกลับไปโตอย่างที่เราหวังกันถูกเพื่อนบ้านแซง หรือ ทิ้งไว้ข้างหลัง 

 

โชคดีช่วงนี้ คลื่นการลงทุนรอบใหม่ในอาเซียนกำลังมา หลายๆ ประเทศกำลังหลั่งไหลเข้ามาลงทุน หลังจากทิ้งเราไปหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง

 

ถ้าหากว่า เราได้ส่วนแบ่งที่พอสมควร  3-5 ปีให้หลัง เราจะมีภาคอุตสาหกรรมใหม่ที่จะออกดอกออกผลอีกครั้ง เป็นเครื่องยนต์ใหม่ให้เศรษฐกิจไทยไปอีก 15-20 ปี ขอเป็นกำลังใจให้กับ BOI ที่พยายามต่อสู้ ช่วงชิงโอกาสให้ประเทศไทย 

 

ในช่วงเช่นนี้ หาก BOI มีงบ มีคนเพิ่มเติม อนาคตของไทยก็จะสดใสมากขึ้น

 

ภาพ: Phunphitphat / Shutterstock

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising