รัฐบาลไทยยืนยันว่า จะไม่มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชาจำนวน 3 คนกลับประเทศ หลังจากที่ทั้งหมดถูกจับกุมในระหว่างการตรวจค้นผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และภริยา จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันนี้ (7 กุมภาพันธ์)
การจับกุมตัว กง ไรยา (Kong Raiya) อดีตนักโทษทางการเมืองชาวกัมพูชา รวมถึง ลิม โสกา (Lim Sokha) และ พัน พนา (Phan Phana) นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคแสงเทียน (Candlelight Party) ได้สร้างความกังวลใจให้กับนักเคลื่อนไหวและนักสิทธิมนุษยชนจำนวนไม่น้อยที่หวั่นใจว่า ทางการไทยอาจส่งตัวพวกเขาทั้งหมดกลับประเทศและอาจต้องโทษรุนแรง
มีรายงานว่า ทั้งสามคนวางแผนที่จะจัดการชุมนุมประท้วงขึ้นในวันที่ ฮุน มาเนต เดินทางเยือนไทย แต่ถูกจับกุมตัวเสียก่อน โดย พัน พนา เผยว่า ตนเองและเพื่อนนักเคลื่อนไหวอีกสองคนหลบหนีมายังไทยเพื่อขอลี้ภัย และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว ซึ่งทั้งหมดกังวลเรื่องความปลอดภัยหากถูกส่งตัวกลับกัมพูชา
ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ขณะนี้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้เข้ามาดูแลเรื่องการย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สามแล้ว
ในโอกาสนี้ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ไม่ปล่อยให้กลุ่มหรือหน่วยองค์กรใดเข้ามาใช้ประโยชน์ของแผ่นดินไทยในการทำกิจกรรมใดๆ เพื่อแทรกแซงกิจการการเมืองภายในของกัมพูชา อีกทั้งกัมพูชาเองก็ได้ให้คำมั่นว่า จะไม่อนุญาตให้กลุ่มหรือหน่วยองค์กรใดเข้ามาใช้ประโยชน์ของแผ่นดินกัมพูชาเพื่อแทรกแซงกิจการภายในไทยเช่นเดียวกัน
ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ยืนยันว่า แนวทางดังกล่าวนี้เป็นแนวนโยบายสำคัญของไทยที่จะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามใช้ประเทศไทยเป็นเวทีในการแทรกแซงกิจการภายใน หรือดำเนินกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อประเทศเพื่อนบ้านของไทยโดยเด็ดขาด ทั้งยังได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือกันของทั้งสองประเทศที่จะจัดการกับปัญหาข้ามพรมแดนทั้งหลาย โดยเฉพาะการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ และปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน
ภาพ: Lillian Suwanrumpha / AFP
อ้างอิง:
