วันนี้ (29 ตุลาคม) ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม – โอร์เสม็ด ได้มีการประชุมฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 – ภูมิภาคทหารที่ 4 (RBC) เพื่อหารือและจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ในการปรับลดกำลังและถอนอาวุธหนักตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2
การประชุมในเวลา 09.00 น. นำโดย พล.ต.กัมปนาท วาพันสุ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 เลขา RBC ฝ่ายไทย และ พล.จ.นิด ณารง รองเสนาธิการ ภูมิภาคทหารที่ 4 เลขา RBC ฝ่ายกัมพูชา
ที่ประชุมได้ข้อสรุปที่สำคัญ ดังนี้:
- กำหนดวันD-Day ร่วมกัน: ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นวันเริ่มต้น (D-Day) การดำเนินการปรับลดกำลังและถอนอาวุธหนัก
- กรอบเวลาการดำเนินการตามแผน (Action Plan):
Phase 1 (Type A): เริ่มต้น 1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00.00 น. (วัน D-Day) สำหรับอาวุธประเภท จรวดหลายลำกล้อง
Phase 2 (Type B): เริ่มต้น 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00.00 น. (วัน D-Day + 3 สัปดาห์) สำหรับอาวุธประเภท ปืนใหญ่ทั้งหมด ทั้งแบบลากจูงและอัตตาจร ขนาด 155 มม. ลงมา
Phase 3 (Type C): เริ่มต้น 13 ธันวาคม 2568 เวลา 00.00 น. (วัน D-Day + 6 สัปดาห์) สำหรับอาวุธประเภท ยานเกราะและรถถัง
ขั้นตอนลงนามเอกสารสำคัญ
- วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น.: ผู้แทนฝ่ายเลขาฯ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกการหารือ ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม – โอร์เสม็ด และเตรียมการสำหรับการลงนามบันทึกการประชุม ต่อไป
- วันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น.: จะมีการลงนามบันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 – ภูมิภาคทหารที่ 4 ร่วมกันระหว่าง แม่ทัพภาคที่ 2 และ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม – โอร์เสม็ด
การติดตามและทบทวนผลปฏิบัติ
- วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 00.00 น.: จะเริ่มดำเนินการปรับลดกำลังตามลำดับของประเภทอาวุธที่มีการเสนอ
- วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568: จะมีการจัดการประชุมเพื่อทบทวนการปฏิบัติใน Phase 1 เพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาและหารือในการปรับกำลังใน Phase 2 และ 3 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเวลาในการวางแผนเข้าตรวจสอบและวางแผนในการเคลื่อนย้าย


