‘เบียร์ช้าง’ ประกาศกร้าว ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาด พร้อมส่ง ‘ช้าง อันพาสเจอไรซ์’ ขวดฝาเกลียวขยายพื้นที่จำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งเป้าโกยยอดขาย 25 ล้านขวดในปีหน้า ย้ำเบียร์พรีเมียมโตเร็วมาก
“หากย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ไทยเบฟเปิดตัว‘ช้าง อันพาสเจอไรซ์’ ซึ่งเป็นเบียร์เซ็กเมนต์พรีเมียมครั้งแรกในไทย ระยะแรกวางจำหน่ายแค่ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กลุ่มเป้าหมาย โดยต้องบอกว่าเวลาเราออกโปรดักต์ใหม่ๆ หัวใจสำคัญคือสินค้าตัวนั้นๆ จะต้องช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจและส่งเสริมแบรนด์ในพอร์ตควบคู่กันไป” ทรงวิทย์ ศรีธรรม ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าว
กระทั่งปัจจุบันเบียร์กลุ่มพรีเมียมมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมองหาโอกาสในการขยายพื้นที่จำหน่ายเพิ่มขึ้น และหากสังเกตจะเห็นว่าปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคมีความต้องการหลากหลายและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น จึงเกิดเป็นโปรเจกต์ของการพัฒนา ‘ช้าง อันพาสเจอไรซ์’ นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกแบบขวดอะลูมินัมฝาเกลียว (Screw-Top Aluminum Bottle) ทุกชิ้นส่วนสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เบื้องต้นได้กระจายสินค้าไปยังช่องทางร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ โดยมีระดับราคา 89 บาท เน้นควบคุมคุณภาพตลอดทุกกระบวนการ ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการขนส่ง ตั้งเป้าสร้างยอดขายกว่า 25 ล้านขวด ภายในปี 2568
ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย กล่าวถึงตลาดเบียร์ในไทยมูลค่า 2 แสนล้านบาท มีการเติบโต 5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบรนด์ช้างมีโอกาสถือส่วนแบ่งทางการตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันตลาด Mainstream ให้ฟื้นตัวกลับมากว่า 5%
เช่นเดียวกับตลาดเบียร์พรีเมียม (Mass Premium) มูลค่ารวมมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท ปีนี้ตลาดโต 5% ถือว่ายังมีศักยภาพสูง ถึงกระนั้นตลาดเบียร์ในไทยยังมีการแบ่งเซ็กเมนต์ออกมาอย่างชัดเจน ทั้งเซ็กเมนต์แมสที่หลายๆ ค่ายเล่น อยู่ในระดับราคาขวดละ 60 บาท และพรีเมียมที่มีระดับราคาตั้งแต่ 90 บาทขึ้นไป ซึ่งกลุ่มพรีเมียมมีโอกาสเติบโตกว่า 30% โดยเฉพาะในแถบกรุงเทพฯ
ส่วนบางพื้นที่ในต่างจังหวัดก็เริ่มนิยมเบียร์พรีเมียมแล้ว ต้องยอมรับว่าเบียร์พรีเมียมมีส่วนช่วยผลักดันยอดขายให้กับบริษัทอย่างมาก ปัจจุบันเบียร์ช้างมีผลิตภัณฑ์ในตลาดเบียร์พรีเมียม 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ช้าง โคลด์ บรูว์, ช้าง เอสเปรสโซ่ และช้าง อันพาสเจอไรซ์
สอดรับกับข้อมูลจาก นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) ณ เดือนกันยายน 2567 ที่ระบุว่า ช้าง อันพาสเจอไรซ์ เป็นเบียร์พรีเมียมที่ได้รับความนิยมจากนักดื่มไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติจนสามารถสร้างยอดขายโตก้าวกระโดดกว่า 300%
เพราะสามารถตอบโจทย์เมกะเทรนด์ Premiumization ของผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์และรสชาติแปลกใหม่ และข้อมูลจาก Zocial Eye ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2567 ที่พบว่า 98% ชื่นชอบในรสชาติสดใหม่ 90% ชื่นชอบในความพรีเมียมของบรรจุภัณฑ์แก้วทรงขวดแชมเปญ และ 98% ต้องการให้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเพื่อความสะดวกและโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น
ขณะที่ช้างคลาสสิกมีฐานลูกค้าค่อนข้างใหญ่เติบโตเช่นกัน รวมถึงกลุ่มเบียร์เฟเดอร์บรอยก็โตดับเบิลดิจิตเช่นกันแต่ฐานลูกค้ายังเล็กอยู่
แม้จะมีคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาแต่จริงๆ แล้วในตลาดเครื่องดื่มยิ่งมีผู้เล่นใหม่เข้ามายิ่งดี เพราะทุกคนต้องการตอบสนองความต้องการผู้บริโภคให้ได้ และยิ่งทำให้บริษัทเราไม่หยุดพัฒนาและเดินหน้าตามแผนโรดแมป โดยภาพรวมในปี 2024 มั่นใจว่าตัวเลขยอดขายเติบโตและเป็นไปในทิศทางที่ดี
ส่วนในปี 2025 ยังเห็นสัญญาณบวก ด้วยปัจจัยภายนอกต่างๆ รัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและจำนวนนักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้น และคู่แข่งหลายๆ ค่ายต่างเร่งทำกิจกรรมการตลาดและปล่อยสินค้าใหม่ออกมาสร้างสีสันในตลาดอยู่เป็นระยะๆ จึงคาดว่าปีหน้าตลาดเบียร์จะโตมากกว่า GDP และโจทย์ใหญ่ของเบียร์ช้างคือจะต้องโตมากกว่าตลาด
สุดท้ายการจะเติบโตได้นั้นคือการเร่งทำกิจกรรมผ่านรูปแบบงานอีเวนต์ต่างๆ ทั้งช่องทางขาย งานคอนเสิร์ต และลานเบียร์กว่า 70 จุดทั่วประเทศ โดยได้เตรียมงบประมาณสำหรับการทำตลาดไว้กว่า 100 ล้านบาท