จบลงไปท่ามกลางความประทับใจกับโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024
โดยโอลิมปิกหนนี้ ประเทศไทยมีนักกีฬาเข้าร่วม 51 ชีวิต จาก 16 ชนิดกีฬา ซึ่งทุกคนต่างทำหน้าที่และทุ่มเทพลังกายและพลังใจไปกับการแข่งขันอย่างสุดความสามารถ ซึ่งทำให้ทัพนักกีฬาไทยกวาดมาได้ 6 เหรียญรางวัล ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง
ตลอดเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมข่าว THE STANDARD SPORT ลงพื้นที่เกาะติดการแข่งขันที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และพบว่าตลอดการแข่งขันมีไฮไลต์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นในหลากหลายสนาม และนี่คือภาพรวมของหลากหลายเหตุการณ์ อารมณ์ ความรู้สึก และประวัติศาสตร์ของนักกีฬาไทยกับโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้
เทนนิส พาณิภัค ขึ้นแท่นนักกีฬาระดับประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทอง 2 สมัยติด!
เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเธอยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในหนนี้ ฝ่าด่านนักสู้ตามเส้นทางได้ทุกคนจนตะลุยไปถึงรอบชิงฯ ซึ่งเธอเผชิญหน้าคู่ปรับเก่าอย่าง กั๊วจิง จากจีน และเป็นอีกครั้งที่เธอแสดงให้โลกเห็นว่า ทำไมเธอถึงเป็นเบอร์ 1 ของรุ่น 49 กิโลกรัมมาอย่างยาวนาน ผลจบลงที่เทนนิสเตะชนะไป 2-1 ยก ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
เทนนิสกลายเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้า 2 เหรียญทอง 2 ครั้งติดต่อกัน และเป็นนักเทควันโดคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์มากถึง 3 เหรียญ ด้วยการคว้า 2 เหรียญทอง และ 1 เหรียญทองแดง จากการลงแข่งโอลิมปิกเกมส์ 3 ครั้งหลังสุด
วิว กุลวุฒิ กับเหรียญประวัติศาสตร์แบดมินตันไทย
วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เดินเข้าสังเวียนโอลิมปิกเกมส์ด้วยความไม่คาดหวังกับการแข่งครั้งนี้ เพราะเขาคิดมาตลอดว่านี่คือรายการใหญ่ และเป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย
ทว่าผลงานของเขานั้นดีเกินคาด วิวสามารถปราบ ฉือหยู่ฉี มือ 1 ของโลกในรอบ 8 คนได้อยู่หมัด ก่อนเดินหน้าไปเอาชนะ หลี่ซีเจี๋ย จากมาเลเซีย ในรอบรองชนะเลิศ จนกลายเป็นนักแบดมินตันคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ไปถึงรอบชิงฯ
แม้รอบชิงฯ วิวไม่อาจต้านความแกร่งของวิกเตอร์ แอ็กเซลเซนได้ แต่วิวในตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าเหรียญเงิน ซึ่งเป็นเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรก (จากกีฬาแบดมินตัน) มาให้ประเทศไทยได้สำเร็จ
ยกน้ำหนักคัมแบ็ก! มาเงียบแต่กวาด (เหรียญ) เพียบนะจ๊ะ
อีกฟากฝั่งหนึ่งของทัพกีฬาไทยที่ส่ง ธีรพงศ์ ศิลาชัย, สุรจนา คำเบ้า, วีรพล วิชุมา และ ดวงอักษร ใจดี ลงแข่งขันยกน้ำหนักแบบเงียบๆ
แต่พวกเขาสามารถกวาดเหรียญได้เพียบ กับผลงาน 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง และแม้ดวงอักษรจะไปไม่ถึงเหรียญรางวัล แต่ความมุ่งมั่นและตั้งใจของเธอ และนักกีฬายกน้ำหนักทุกคน ได้สร้างความประทับใจให้แฟนกีฬาไทยที่คอยส่งแรงใจเชียร์เป็นอย่างมาก นับเป็นการคัมแบ็กที่สวยงามของทีมยกเหล็กไทย หลังถูกแบนเมื่อ 3 ปีก่อนที่โตเกียว 2020 จากกรณีพบสารต้องห้ามในร่างกายของนักกีฬา
เฟรม ธนาคาร ปั่นเพื่อประเทศไทย ขวัญใจโซเชียล
เฟรม-ธนาคาร ไชยยาสมบัติ นักกีฬาจักรยานถนน แม้จะแข่งไม่จบในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 จากการถูกคัตออฟในช่วง 35 กิโลเมตรสุดท้าย แต่สิ่งที่เขาตัดสินใจทำในการแข่งขันได้สร้างเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก นั่นคือการเลือกปั่นหนีจากกลุ่มใหญ่ เพื่อไปเกาะกลุ่มอยู่กับเหล่าสุดยอดนักปั่นของโลก
การเกาะติดกับบรรดาตัวเต็งทำให้เฟรมได้แอร์ไทม์ มีกล้องถ่ายทอดสดจับภาพเขาออกจออยู่บ่อยๆ และเขาใช้โอกาสนั้นในการโชว์เข็มกลัดลายธงชาติไทยออกจอ ขณะที่ผู้บรรยายการแข่งขันภาษาอังกฤษได้เอ่ยชื่อพูดถึงอยู่หลายครั้ง
นอกจากสิ่งที่ทำในสนาม บนโลกออนไลน์ (โดยเฉพาะ TikTok) เขาทำหน้าที่เสมือนไกด์พาแฟนกีฬาไปลัดเลาะรอบหมู่บ้านนักกีฬา ผลิตคอนเทนต์ต่างๆ ออกมาได้สนุกและน่าชื่นชมเป็นอย่างมาก
จันทร์แจ่ม ความหวังมวยสากล และน้ำใจนักกีฬาที่คู่ควรกับการชื่นชม
แม้ว่ามวยสากลจะมีนักกีฬาเข้าร่วมมากถึง 8 ชีวิต แต่ด้วยเส้นทางการแข่งขันของโอลิมปิกเกมส์ที่เป็นเหมือนศูนย์รวมยอดฝีมือระดับท็อปไว้ในรายการนี้
ทำให้ระหว่างการแข่งขันมีเพียงนักชก 1 เดียวของไทยอย่าง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ที่โชว์ฟอร์มเก่งไปถึงรอบรองชนะเลิศ ด้วยการชนะ บูเซนาซ ซูร์เมเนลี เต็ง 1 ของรายการจากตุรกี ในมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง แม้จะพ่ายต่อ อิมาน เคลิฟ จากแอลจีเรียในรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอคว้าเหรียญทองแดงจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ได้สำเร็จ
นอกจากนั้น จันทร์แจ่มยังได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนกีฬาถึงท่าทีที่มีต่อ อิมาน เคลิฟ ที่ต้องเผชิญต่อดราม่าเรื่องการตรวจโครโมโซมตลอดทัวร์นาเมนต์ ซึ่งจันทร์แจ่มชื่มชมฝีมือเคลิฟพร้อมถ่ายภาพคู่ลง IG ส่วนตัว เช่นเดียวกับนักกีฬาอีก 2 คนที่ร่วมบนโพเดียม ทุกคนปฏิบัติและแสดงท่าทีต่อเคลิฟอย่างเป็นมิตร จนนำมาซึ่งเสียงชื่นชมจากความมีน้ำใจนักกีฬาเป็นอย่างมาก
บิว ภูริพล วิ่ง 100 เมตรโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก แบบได้ใจคนเชียร์!
ถึงจะเป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในชีวิตของ บิว-ภูริพล บุญสอน แต่ลมกรดหนุ่มวัย 18 ปีของไทยผู้นี้ได้ทำหน้าที่อย่างดีและเต็มที่ที่สุดแล้ว ในรอบคัดเลือกเขาสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 10.13 วินาที ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแบบได้ใจคนเชียร์สุดๆ
และในรอบรองชนะเลิศ แม้บิวจะเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 9 กับเวลา 10.14 วินาที ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบชิงฯ แต่เท่านี้ก็นับว่าเขามาไกลเกินฝันในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ และด้วยวัยเพียง 18 ปี การได้วิ่งเคียงข้างกับนักกีฬาระดับโลกแบบนี้ เชื่อว่าในอนาคตเราจะได้เห็นผลงานดีๆ จากชายที่ชื่อ บิว ภูริพล อีกอย่างแน่นอน
เอสที วารีรยา ‘ออกไปโดดให้โลกจำ’ นักกีฬาที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 12 ปี
เอสที-วารีรยา สุขเกษม นักสเกตบอร์ด ประเภทสตรีทหญิง คือนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดของไทยด้วยวัยเพียง 12 ปี เธอได้ออกไปโลดแล่นโชว์ฝีมือบนสังเวียนเดียวกับนักสเกตบอร์ดชื่อดังมากมาย
ท้ายที่สุด เอสทีจบอันดับ 17 จาก 22 คนในรอบสุดท้าย ไม่ผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ผลงานครั้งนี้ทำให้ชื่อของเธอเป็นที่จดจำในหมู่แฟนกีฬาสเกตบอร์ดทั่วโลก หลังจบเกมมีแฟนกีฬาแห่มาขอลายเซ็นมากมาย ซึ่งเธอบอกเอาไว้ว่า หลังจากนี้จะกลับไปพัฒนาฝีมือ และอีก 4 ปีข้างหน้า เธอจะคว้าเหรียญโอลิมปิกมาให้ได้!
‘น้ำตา-มิตรภาพ-การแข่งขัน’ เมย์-ไต้จื่ออิง การดวลกันครั้งสุดท้ายในโอลิมปิกเกมส์
ถือเป็นอีก ‘คู่ปรับตลอดกาล’ แห่งวงการแบดมินตัน ระหว่าง เมย์-รัชนก อินทนนท์ กับ ไต้จื่ออิง มือเก่งจากไต้หวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่เจอกันมาแล้ว 35 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือการดวลกันที่โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 และในครั้งนี้เป็น เมย์ รัชนก ที่ทำผลงานได้ดีกว่า ก่อนจะปิดเกมไป 2-0 เกม ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายได้สำเร็จ
ทว่าสิ่งที่แฟนกีฬาโฟกัสนอกจากชัยชนะของเมย์แล้ว คือการที่สองนักกีฬาที่แข่งกันมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ได้จับมือและสวมกอดกัน หลังดวลกันในโอลิมปิกเกมส์ครั้งสุดท้าย เป็นภาพที่แสดงถึงมิตรภาพที่งดงามของทั้งสองคน แม้ในสนามจะแข่งขันกันหนักแค่ไหน แต่นอกสนาม เมย์-ไต้จื่ออิง คือเพื่อนรักที่ดีต่อกันเสมอมา
ขอบคุณจากหัวใจ ‘นักกีฬา 51 ชีวิต’ ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ‘พวกคุณเก่งมาก’
ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 คือมหกรรมกีฬาระดับโลกที่ 4 ปีจะมีเพียง 1 ครั้ง นั่นจึงทำให้นักกีฬาทุกคนต่างทุ่มเทพลังกายและพลังใจให้กับการฝึกซ้อม เพื่อลงแข่งขันในรายการนี้อย่างสุดความสามารถ
ท่ามกลางการแข่งขันตลอด 2 สัปดาห์กับโปรแกรมสุดโหด และนักกีฬามากฝีมือจากทั่วทุกมุมโลก สุดท้ายทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้ 6 เหรียญ กับผลงาน 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง
THE STANDARD หนึ่งในสื่อที่เกาะติดการแข่งขันทั้งภาคสนามและรายงานจากประเทศไทย จึงอยากขอบคุณทุกความทุ่มเทตลอดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ และขอส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคนเดินหน้า มุ่งมั่น และสู้ต่อไปในรายการอื่นๆ ในอนาคต ‘พวกคุณเก่งมาก’