ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) คาดว่า ในปีนี้ (ปี 2568) รายได้ ธุรกิจสนามบิน จะอยู่ที่ 80,700 ล้านบาท ขยายตัวเพียง 0.2% เป็นอัตราที่ชะลอลงจากปี 2567 มองไปข้างหน้า ‘จ่อเผชิญความท้าทายสูง’ จากความเสี่ยงผู้โดยสารและแผนเที่ยวบินของสายการบินอาจลดลงกว่าที่ประเมิน จากทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และผลต่อเนื่องถึงรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน ในส่วนของสัมปทานก็อาจได้รับผลกระทบจากส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลง
วันนี้ (16 มิถุนายน) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) คาดว่า ภาพรวมของธุรกิจสนามบินในไทยในปี 2568 จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 80,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.2% จากปี 2567 เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมธุรกิจสนามบินมีความท้าทายสูง
ทั้งนี้ รายได้ของธุรกิจสนามบิน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
- รายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenue) อาทิ ค่าบริการผู้โดยสารขาออกเส้นทางระหว่างประเทศและภายในประเทศ (Passenger Service Charge: PSC) และค่าบริการสนามบิน
- รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) อาทิ ค่าเช่าพื้นที่ รายได้จากสัมปทาน และค่าบริการอื่นๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าบริการเคาน์เตอร์เช็กอินและบริการภายในสนามบิน เป็นต้น
โดยสัดส่วนโครงสร้างรายได้ขึ้นอยู่กับขนาดของสนามบิน กรณีสนามบินขนาดเล็ก รายได้ส่วนใหญ่ หรือมากกว่า 80% มาจากรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน ขณะที่ หากเป็นสนามบินขนาดใหญ่ รายได้ของทั้ง 2 กลุ่มจะมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) ได้รวบรวมเปิดความเสี่ยงของธุรกิจสนามบินในไทยไว้ ดังนี้
1. ความเสี่ยงจากจำนวนผู้โดยสารและแผนเที่ยวบินของสายการบินที่อาจลดลงกว่าที่ประเมิน ซึ่งจะมีผลต่อรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenue) ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50% ของรายได้ธุรกิจสนามบิน (ขึ้นอยู่กับขนาดและกิจการของสนามบิน)
“โดยในช่วงที่เหลือของปี 2568 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวกระทบแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยและคนต่างชาติ รวมไปถึง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสายการบินและการเดินทาง ท่ามกลางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศสูง ขณะเดียวกันข่าวเชิงลบที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง กระทบความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและประสบการณ์ในการเดินทางมาเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม”
2. ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ขณะที่รายได้ยังมีความไม่แน่นอน และไปข้างหน้าการแข่งขันในธุรกิจสนามบินระหว่างภูมิภาคสูงขึ้น
“โดยสนามบินในไทยหลายแห่งยังต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความปลอดภัยของสนามบินให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินสากล ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนที่สูง
“นอกจากนี้ การแข่งขันกับสนามบินในภูมิภาค หลายประเทศมีแผนการลงทุนพัฒนาสนามบินนานาชาติรองรับการขยายตัวของผู้โดยสารและปริมาณเที่ยวบิน มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ เพื่อดึงสายการบินให้มาใช้บริการ หรือเลือกเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ซึ่งประเด็นนี้อาจนำมาซึ่งการแข่งขันด้านบริการและราคาในธุรกิจสนามบินที่สูงขึ้น และอาจมีผลต่อต้นทุน รายได้และผลกำไรในการดำเนินงาน เนื่องจากสนามบินไทยจะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้ทัดเทียมกับคู่แข่ง”
3. ความต่อเนื่องของแผนการพัฒนาสนามบินในประเทศของภาครัฐ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อธุรกิจสนามบิน ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายของภาครัฐ ทำให้การพัฒนาสนามบินอาจมีความล่าช้า กระทบการวางแผน การลงทุน และการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
4. ความพร้อมของสนามบินไทยในการตรวจมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินประเทศไทย ซึ่งต้องติดตามผลการตรวจมาตรฐานด้านความปลอดภัยขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ในช่วงเดือนสิงหาคม 2568
ภาพ: Antonio Hugo Photo / Getty Images