ราคาหุ้น Tesla ยังคงเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ หรือ All Time High อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาหุ้นปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 574 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 567%
ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH พาไปดูว่า ‘กองทุนรวม’ ของประเทศไทยมีกองไหนบ้างที่ถือหุ้น Tesla แล้วผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวเป็นอย่างไร
ก่อนอื่นต้องบอกว่ากองทุนรวมของไทยส่วนใหญ่ที่ไปลงทุนในหุ้น Tesla เป็นการลงทุนในลักษณะ ‘Master Fund’ หรือการลงทุนผ่านกองทุนหลักในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนเหล่านั้นได้เข้าไปลงทุนในหุ้น Tesla อีกทีหนึ่ง ซึ่งก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างดี ทำให้ผลตอบแทนของกองทุนรวมไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่นด้วย
จากการรวบรวมตัวอย่างกองทุนไทยที่ไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศซึ่งถือหุ้น Tesla ได้แก่ K-CHANGE-A(A), ONE-UGG-RA, ONE-DISC-RA, KT-WTAI-A ต่างให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (Ytd) ในระดับประมาณ 60-80%
ขณะที่สองกองทุนน้องใหม่อย่าง TMB-ES-GINNO และ TNEXTGEN ซึ่งเพิ่งจัดตั้งกองทุนในช่วง 2-4 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ให้ผลตอบแทน 10-12%
ชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์กองทุนอาวุโส มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่านักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเหล่านี้ควรทำความเข้าใจว่าราคาหุ้น Tesla ที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างเร็วในช่วงนี้ โดยหลักเป็นไปตามข่าวที่ว่าหุ้น Tesla จะถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี S&P 500 และอาจส่งผลให้ดัชนี S&P 500 มีน้ำหนักของหุ้นขนาดใหญ่ที่กระจุกตัวมากขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของตลาดโดยรวม
อย่างไรก็ดี การลงทุนในกองทุนรวมนั้นมีการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย นักลงทุนจึงควรเน้นการพิจารณานโยบายการลงทุนว่าลงทุนในหุ้นกลุ่มใด รวมทั้งคำนึงถึงความเสี่ยง ค่าธรรมเนียม หรือปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก
ปัจจุบันหุ้น Tesla ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Consumer Cyclical จึงทำให้มีหลายกองทุนที่ถือหุ้น Tesla นั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Global Technology (ตาม Morningstar Category) และจากข้อมูลจะแสดงชื่อกองทุนหลัก (Master Fund) ที่กองทุนไทยเข้าลงทุน ซึ่งพบว่ามีกองทุนจาก Baillie Gifford ที่ค่อนข้างให้น้ำหนักสูง (Overweight) กับหุ้น Tesla โดยมีการลงทุนราว 10% ใน 3 กอง Master Fund อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลในอดีต ซึ่งพอร์ตปัจจุบันอาจมีน้ำหนักหุ้น Tesla ที่ต่างไปจากข้อมูลนี้
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของแต่ละกองทุนหลัก (Master Fund) ในช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา การลงทุนในหุ้น Tesla ของบางกองทุนมีสัดส่วนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น Baillie Gifford Worldwide Discovery Fund มีสัดส่วนลดลงจาก 10.6% เป็น 5.3% หรือ Nikko AM ARK Disruptive Innovation Fund ลดสัดส่วนจาก 9.8% เป็น 8.7% ขณะที่บางกองทุนยังมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นคือ ARK Next Generation Internet ETF เพิ่มจาก 9.4% เป็น 10.6%
ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์