วันนี้ (10 ตุลาคม) เวลา 07.00 น. ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ส่งข้อความถึงสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า ในเวลา 10.30 น. วันเดียวกันนี้ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน เดินทางไปยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญโปรดวินิจฉัยสั่งการให้ ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
ไพบูลย์ระบุอีกว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยคำร้อง 65 หน้า และเอกสารประกอบอีกจำนวน 443 แผ่น รวมคำร้องและเอกสารประกอบชุดละ 508 แผ่น จำนวน 10 ชุด รวมเอกสารทั้งสิ้น 5,080 แผ่น จากนั้นธีรยุทธจะแถลงข่าวสรุปสาระสำคัญของคำร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ
อย่างไรก็ตาม สำหรับ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร นั้น ระบุอาชีพตัวเองว่าเป็น ‘ทนายความอิสระ’ โด่งดังเป็นที่รู้จักในวงสังคมการเมือง เพราะเป็นอดีตทนายความประจำของอดีตพระพุทธะอิสระ หรือปัจจุบันคือ สุวิทย์ ทองประเสริฐ ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันก้าวขึ้นปีที่ 9
ธีรยุทธเคยมีลูกความที่ชื่อ ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในคดีที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง วีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ในความผิดฐานหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และฟ้อง อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ทั้งยังเคยมีการแจ้งความดำเนินคดีกับนักการเมือง และนักกิจกรรมการเมืองนับไม่ถ้วน ดังนี้
- แจ้งความดำเนินคดีกับ 3 แกนนำคณะก้าวหน้า ได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ พรรณิการ์ วานิช กรณีบรรยายเรื่องงบประมาณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ปิยบุตร แสงกนกกุล กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กพูดถึง 3 ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมการเมืองเมื่อปี 2563 ในความผิดฐานร่วมกันยุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
- แจ้งความดำเนินคดีกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อายุ 18 ปี (ขณะนั้น) สมาชิกกลุ่ม ‘คะน้าราดซอส’ จากการปราศรัยที่ห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116 และอื่นๆ รวม 8 ข้อหา
- แจ้งความดำเนินคดีกับ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร กับพวกอีก 5 คน กรณีตั้งโต๊ะแถลงข่าวต้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครอง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 113 และ 116
นอกจากนี้ ธีรยุทธคือพยานปากเอก เป็นผู้ร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ยุติการหาเสียงด้วยการแก้ไขมาตรา 112 อันเป็นการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อ้างอิง: