มูลค่าหุ้นบริษัทเทคโนโลยีจีนลดลงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงการซื้อขายวันนี้ (7 สิงหาคม) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งประธานาธิบดี ห้ามชาวอเมริกันทำธุรกิจกับแอปฯ โซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีนอย่าง TikTok ของ ByteDance และ WeChat ของ Tencent ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
การประกาศแบนแอปฯ จีนกดดันราคาหุ้นบริษัท Tencent เจ้าของ WeChat ร่วงลงถึง 10.1% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ก่อนที่หุ้นจะรีบาวด์ขึ้นเล็กน้อยและเทรดกันต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวานนี้ราว 4.4%
นอกจาก Tencent แล้ว หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนก็ถูกกดดันให้ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้น Alibaba และ JD.com ดิ่งลงมากที่สุด 6.7% และ 5% ในระหว่างวัน
ขณะที่หุ้น Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของจีน ร่วง 3.77% ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ส่วนหุ้น ZTE คู่แข่งของ Huawei ปรับตัวลง 3.65%
สำหรับภาพรวมดัชนี Hang Seng Tech ที่รวมบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุด 30 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วง 3.37% ขณะที่ดัชนี ChiNext ซึ่งถูกนำไปเปรียบเป็นดัชนี Nasdaq ของจีนปรับตัวลง 2.828%
ทั้งนี้คำสั่งประธานาธิบดีในการห้ามทำธุรกิจกับ TikTok และ WeChat นั้นจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน หรือใน 45 วันข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ทรัมป์ขีดเส้นตายให้ Microsoft และ ByteDance เร่งเจรจากันเพื่อขาย TikTok ให้แก่บริษัทเทคโนโลยีอเมริกันภายในวันที่ 15 กันยายน เพื่อแลกกับโอกาสที่แอปฯ ดังกล่าวจะไม่ถูกแบนในสหรัฐฯ ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้โหวตอนุมัติกฎหมายห้ามเจ้าหน้าที่โหลดแอปฯ TikTok ในอุปกรณ์ของรัฐบาลไปก่อนหน้านี้
นักลงทุนในตลาดมองว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ที่มีขอบเขตกว้าง ทำให้ตีความได้ว่าสหรัฐฯ อาจห้ามการทำธุรกิจทั้งหมดกับ Tencent และ ByteDance ซึ่งอาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อธุรกิจเกมของ Tencent ในสหรัฐฯ ขณะที่บริษัทดังกล่าวมีการลงทุนในบริษัทของสหรัฐฯ หลายแห่ง
ปัจจุบัน Tencent ยังมีหุ้นใน Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลกของ อีลอน มัสก์, Epic Games บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และ Spotify ธุรกิจสตรีมมิงเพลงยอดนิยมด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: