กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการ TDRI Economic Intelligence Service (EIS) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่าปี 2564 เศรษฐกิจไทยมีความท้าทายในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องโควิด-19 ที่เกิดระลอกใหม่และจะคงอยู่ตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งการใช้มาตรการควบคุมบางพื้นที่ส่งผลให้ยังจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น (ไม่ใช่เคสวิกฤต)
อีกปัจจัยสำคัญคือการฉีดวัคซีนของประชากรไทยอย่างทั่วถึงยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้ จากแผนการกระจายวัคซีนของภาครัฐคาดว่าต้นปี 2565 จึงจะมีประชาชนได้รับวัคซีนทั่วประเทศ โดยภายในปีนี้จะมีวัคซีนจาก Sinovac 2 ล้านโดส และสูตร AstraZeneca (บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์) ที่ไทยจะผลิตเองอีก 26 ล้านโดส ซึ่งจะมีคนเข้าถึงวัคซีนราว 14 ล้านคน จากประชากรกว่า 66 ล้านคน (หนึ่งคน 2 โดส) ซึ่งส่วนที่รัฐบาลอยากจะเจรจาซื้อมาเพิ่มอีก 35 ล้านโดสอาจยังไม่ได้มา
“หากมีการฉีดวัคซีน ยังต้องรออีก 6 เดือนคนไทยจึงจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งไวรัสยังสามารถกลายพันธุ์ได้อีก กลายเป็นความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น และกลายเป็นผลกระทบที่ยืดยาวต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งคนที่ได้รับวัคซีนยังสามารถแพร่เชื้อได้ แม้ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนแล้ว การที่ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาก็ไม่ง่าย ดังนั้นการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ กว่าจำนวนจะกลับมาสู่ระดับ 40 ล้านคนเหมือนก่อนโควิด-19 ยังต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 2-3 ปี”
ขณะที่สิ้นปี 2564 นี้ การท่องเที่ยวในประเทศจะกลับมาฟื้นตัวบ้าง แต่ไม่เท่ากับก่อนโควิด-19 โดยคาดการณ์ว่า GDP ปี 2564 จะโตที่ 2-3% จากปี 2563 ที่ติดลบ 7-8% สาเหตุเพราะการท่องเที่ยวไม่กลับมา (การท่องเที่ยวในประเทศอาจฟื้นตัวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า) และการส่งออกยังจะฟื้นตัวเหมือนช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 2565 รวมถึงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยก็ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีในการฟื้นตัวเท่าก่อนโควิด-19 เช่นกัน
กรณีค่าเงินบาทที่แข็งค่าทั้งปี 2564 อยู่ที่ระดับ 30.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุใหญ่มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงจากการทำ QE หรือการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตามว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างไร และมีความหวังว่าเศรษฐกิจคู่ค้าอย่างสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน จะดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความหวังหลักของเศรษฐกิจไทยคือการลงทุนภาครัฐ เพราะเป็นเครื่องยนต์ที่ยังเดินได้ต่อเนื่องจากวงเงินกู้เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูจากโควิด-19 ที่ 1 ล้านล้านบาทยังใช้ไปเพียง 30% เท่านั้น ขณะที่เมื่อรวมกับงบประมาณส่วนอื่นๆ มองว่ารัฐบาลยังมีเงินเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีก 4.4 ล้านล้านบาท
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
