วันนี้ (17 เมษายน) พรรคไทยสร้างไทย ออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ว่า หลังจากที่ได้ฟังคำแถลงของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 เมษายนนั้น พรรคไทยสร้างไทย รู้สึกกังวลต่อมาตรการและการดำเนินการของรัฐบาลต่อการรับมือในการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (B.1.1.7) เนื่องจากเห็นว่า มาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมาล้วนเป็นการควบคุมการดำเนินกิจกรรมของประชาชนทั้งสิ้น แต่กลับไม่มีมาตรการเชิงรุกในการควบคุมโรค ซึ่งมาตรการในลักษณะนี้นอกจากควบคุมการแพร่ระบาดไม่ได้แล้ว ยังเป็นการหยุดยั้งกิจกรรมของประชาชนไม่ให้ทำมาค้าขายด้วย ส่งผลให้ SMEs จำนวนมากต้องปิดตัวลง ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศถดถอยอย่างรุนแรง ประชาชนจำนวนมากต้องตกงาน โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2563 สูงกว่า 4 ล้านคน และจะมีคนตกงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากรัฐบาลยังคงนิ่งเฉยต่อไป
พรรคไทยสร้างไทยจึงขอเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการปรับแผนรับมือโควิด-19 เพื่อยุติการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุดดังนี้
1. เร่งตรวจเชิงรุก โดยให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจได้ง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อค้นหาและนำผู้ติดเชื้อเข้าระบบให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด รัฐบาลอย่ากลัวว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูง ยิ่งหาผู้ติดเชื้อและนำเข้าระบบได้เร็ว จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น
โดยผู้ติดเชื้อที่มีอาการให้นำไปรักษาในโรงพยาบาล ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการนำไปเฝ้าดูอาการในสถานที่ที่รัฐกำหนด ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยขอเสนอให้รัฐบาลเช่าโรงแรมที่มีห้องว่างเหลือมากมายในทุกจังหวัด เป็นที่กักตัวผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ เพื่อไม่ให้ออกไปแพร่โรค ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งจะช่วยให้โรงแรมต่างๆ มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
2. ให้รัฐบาลกระจายงบประมาณให้โรงพยาบาลต่างๆ โดยเร่งด่วน เพราะขณะนี้ผู้ติดเชื้อมากขึ้น จนบางโรงพยาบาลคนไข้ล้น อุปกรณ์ขาดแคลน จนต้องประกาศรับบริจาคอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือกันอีกแล้ว แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทำงานกันหนักมาก งาน Overload แต่งบประมาณไม่เพียงพอต่อการดูแลประชาชน
3. เร่งปรับแผนการจัดหาและกระจายวัคซีนใหม่ โดยรัฐบาลต้องทุ่มเทสรรพกำลังในการจัดซื้อวัคซีน เพื่อให้ได้ 100 ล้านโดสเป็นอย่างต่ำ ขณะนี้มีสัญญาจัดซื้อเพียง 63 ล้านโดส โดยต้องจัดซื้อเพิ่มอีก 40 ล้านโดส เพื่อฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ 50 ล้านคน หรือ 70% ของประชากร เพื่อสร้างให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ อันจะทำให้ไทยลดการระบาดได้อย่างยั่งยืน ประชาชนกลับมาทำมาหากินได้ปกติ และควรจัดซื้อจากผู้ผลิตรายอื่นๆ นอกจาก 2 รายเดิม เพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกมากขึ้น และรัฐบาลต้องบริหารจัดการฉีดให้ประชาชน 50 ล้านคน ให้ครบ 2 โดสภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ไทยเปิดประเทศได้ทันกับประเทศอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกด้วย
4. สถานการณ์ทั่วโลก ณ เวลานี้ ประเทศที่มีการบริหารจัดการอย่างมีมาตรฐาน ประชาชนของเขาทราบกันหมดแล้วว่า ประเทศของตนจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนครบ และจะเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไร ตรงกันข้ามกับประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับการระบาดรอบสาม ซึ่งแพร่กระจายเป็นวงกว้างกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า โดยไม่รู้ว่าจะเปิดประเทศได้เมื่อไร ทำให้คนไทยไม่สามารถวางแผนชีวิตตัวเองได้ ทั้งในเรื่องความปลอดโรค และการอยู่รอดของปากท้อง เนื่องจากปัญหาทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ “เงื่อนเวลาในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน” ที่รัฐบาลยังไม่มีแผนการดำเนินงานที่แน่นอน
พรรคไทยสร้างไทย จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำประเทศ ให้แจ้งไทม์ไลน์ให้กับพี่น้องประชาชนได้ทราบด้วยตัวเอง โดยควรจะแถลงอย่างชัดเจน ดังนี้
4.1 อีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปีกันแน่ ประชาชนไทยจึงจะได้รับวัคซีนกันทั่วประเทศ
4.2 รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังเพิ่มเป็นทวีคูณในทุกวันนี้ขนาดไหน และเราสามารถดูแลคนป่วยได้เต็มที่จำนวนเท่าไร
4.3 ประเทศไทยจะสามารถเปิดประเทศได้ทันนานาอารยประเทศทั่วโลกหรือไม่
พรรคไทยสร้างไทย ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องคนไทยทุกคน ได้ดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี ระมัดระวังในการใช้ชีวิต ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง พยายามไม่ไปอยู่ในที่แออัด หรือไม่จำเป็นก็ไม่ควรออกจากบ้านในช่วงนี้
สุดท้าย พรรคไทยสร้างไทยขอแสดงความชื่นชม และขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกท่าน ที่ได้เสียสละทำงานอย่างหนัก เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยทุกคน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: