×

ครม. ไฟเขียวร่าง พ.ร.ฎ. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา คาดช่วยสนับสนุนสถานศึกษาปีละ 1 หมื่นล้านบาท

โดย THE STANDARD TEAM
27.12.2022
  • LOADING...
ภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา

วันนี้ (27 ธันวาคม) ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งการมีมาตรการนี้ จะสามารถช่วยดังนี้

 

  1. เป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจะได้รับบริจาคจากภาคเอกชนตามมาตรการภาษีดังกล่าวปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท 
  2. เป็นการช่วยลดภาระการจัดสรรงบประมาณของรัฐในด้านการศึกษาของประเทศได้อีกทางหนึ่ง
  3. สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

 

สำหรับร่าง พ.ร.ฎ. ฉบับนี้จะทำให้บุคคลธรรมดาสามารถนำเงินมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่จะไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่าย และหักค่าลดหย่อนอื่นๆ ส่วนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินมาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายที่บริจาค แต่จะไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา 

 

ทั้งนี้ ช่องทางบริจาคจะต้องเป็นระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 

 

ส่วนสถานศึกษา 5 ประเภทที่จะบริจาคเพื่อการลดหย่อน มีดังนี้

 

  1. สถานศึกษาของรัฐ 
  2. โรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบ 
  3. สถาบันอุดมศึกษาเอกชน 
  4. สถานศึกษาที่ตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ เช่น สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) 
  5. สถาบันอุดมศึกษาซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษา โดยสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ (คพอต.) อนุมัติโดยความเห็นชอบของ ครม. เช่น มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล และมหาวิทยาลัยอมตะ 

 

ทั้งนี้ บริจาคได้ทั้ง 5 ประเภท โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ 

 

สำหรับร่าง พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ จะเป็นการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษาตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 713) พ.ศ. 2563 และเพิ่มเติมประเภทของสถานศึกษาให้ครบถ้วน และไม่เกิดความซ้ำซ้อนทางกฎหมาย และให้ยกเลิก พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 และ (ฉบับที่ 655) พ.ศ. 2561 

 

ทิพานันกล่าวด้วยว่า รัฐบาลมุ่งมั่นออกกฎหมายเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมสนับสนุนการศึกษาของประเทศอย่างต่อเนื่อง ประโยชน์ทางตรงคือจะทำให้สถานศึกษาสามารถนำเงินส่วนนี้มาพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเด็กและเยาวชนไทยมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมมากขึ้น ส่วนประโยชน์ทางอ้อมคือเป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเป็นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมให้ประชาชนทั่วประเทศ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising