×

TASTE: The Rubberer คาเฟ่ยางพารา ที่ตั้งใจเสิร์ฟกาแฟไทยผ่านดีไซน์เรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นยุคอิคคิวซัง

17.06.2022
  • LOADING...
The Rubberer

HIGHLIGHTS

3 mins. read
  • ยางพาราถูกใช้เป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบ และสะท้อนตัวตนการนำเสนอกาแฟที่ใช้เมล็ดไทย 100% โดยตั้งใจต้อนรับทุกคนในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง 
  • สังเกตได้ว่าหลังคาจะมีความลาดต่ำกว่าปกติ ชายคายื่นยาว และมีระเบียงโดยรอบที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับบ้านและวัดในญี่ปุ่น เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคเดียวกันกับการ์ตูนวัยเด็กเรื่อง อิคคิวซัง ที่ทุกคนคุ้นเคย ซึ่งอินสไปร์มาจากความชอบอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นยุค 80
  • มู้ดแอนด์โทนโดยรวมของคาเฟ่ดูเข้าถึงง่าย สบายๆ และน่าเข้าไปนั่งใช้เวลาดื่มด่ำกับกาแฟ

 

The Rubberer เป็นคาเฟ่ดีไซน์เรียบง่ายในจังหวัดระยอง ที่เสิร์ฟกาแฟไปพร้อมๆ กับการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลองสัมผัสเรื่องราวของยางพารา ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจประจำจังหวัด ที่หลายคนฟังแล้วอาจไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก แต่กับเจ้าของคาเฟ่อย่าง รังสิมันตุ์ ร่วมชาติ เรียกได้ว่ายางพาราเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิด และเป็นธุรกิจของครอบครัวมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การทำสวนยางพารา ไปจนถึงการทำโรงงานแปรรูปแผ่นยาง เมื่อถึงเวลาตัดสินใจขยายธุรกิจด้วยการทำคาเฟ่ จึงนำเรื่องราวนี้มาเป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบ และสะท้อนตัวตนการนำเสนอกาแฟที่ใช้เมล็ดไทย 100% โดยตั้งใจต้อนรับทุกคนในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง 

 

 

ตัวคาเฟ่ตั้งอยู่แบบสแตนด์อโลน เป็นอาคารสีดำชั้นเดียวที่มีความยาวมากถึง 20 เมตร นั่นเป็นเพราะถูกถอดรูปทรงและแมตทีเรียลมาจากโรงตากยางเดิมที่อยู่ในละแวกเดียวกัน แต่ลดทอนความดิบของวัสดุลง และสร้างคาแร็กเตอร์ใหม่ให้ดูเรียบง่าย ด้วยการตกแต่งที่มีกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นแบบมินิมัลเข้าไป

 

 

 

สังเกตได้ว่าหลังคาจะมีความลาดต่ำกว่าปกติ ชายคายื่นยาว และมีระเบียงโดยรอบที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับบ้านและวัดในญี่ปุ่น เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคเดียวกันกับการ์ตูนวัยเด็กเรื่อง อิคคิวซัง ที่ทุกคนคุ้นเคย ซึ่งอินสไปร์มาจากความชอบอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นยุค 80 ของเจ้าของร้านเอง ทำให้มู้ดแอนด์โทนโดยรวมของคาเฟ่ดูเข้าถึงง่าย สบายๆ และน่าเข้าไปนั่งใช้เวลาดื่มด่ำกับกาแฟ

 

 

เมื่อเข้าสู่ภายในร้านจะเห็นได้ว่าการตกแต่งมีการใช้วัสดุที่ดิบเท่ไม่ต่างจากด้านนอก แต่ดีเทลต่างๆ ค่อนข้างเนี้ยบและเรียบร้อยมาก มีทางออกไปสู่โซนที่นั่งแบบ Semi-Outdoor ที่ด้านบนตกแต่งด้วยแผ่นยางดิบ แขวนเรียงกันเหมือนจำลองกระบวนการผลิตในโรงงานจริงๆ และในคอร์ตหินมีแท่นรีดยางเก่าแบบแมนวล ซึ่งเป็นเครื่องจักรในโรงงานที่ไม่ได้ใช้แล้ว นำมาจัดแสดงอยู่ด้วย พื้นที่นี้จึงเป็นเหมือนมุมมิวเซียมเล็กๆ ที่ให้เราได้เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและขนม ไปพร้อมๆ กับสัมผัสเรื่องราวและกรรมวิธีในการผลิตยางพาราที่อาจยังไม่รู้มาก่อน

 

 

ไม่เพียงแต่เรื่องของการออกแบบที่เรียบง่าย จริงๆ แล้วกาแฟที่ร้านนำเสนอก็เรียบง่ายไม่แพ้กัน โดยคำนิยามของ The Rubberer คือต้องการเสิร์ฟ Daily Coffee กาแฟที่รับประทานได้ทุกวันในราคาที่จับต้องได้ ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟไทย 100% ซึ่งเป็น Single Origin มาจากแหล่งเพาะปลูกเดียวคือ สวนแม่บู่หย่า ดอยปางขอน จังหวัดเชียงราย ที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของรสชาติเฉพาะตัว และมีเพียง 5 โรงคั่วในประเทศไทยที่มีโอกาสได้ใช้เมล็ดกาแฟนี้ โดยทางร้านคอลแลบกับโรงคั่วที่มีชื่อว่า Cozy Factory 

 

 

ร้านมีเมล็ดกาแฟ House Blend 2 ตัว ตัวแรกคือ Chimera เมล็ดคั่วกลางที่เบลนด์ ระหว่าง Washed Process, Honey Process และ Natural Process จากสวนแม่บู่หย่าล้วน เหมาะสำหรับนำไปทำเมนูกาแฟเย็น ให้รสชาติที่ออกช็อกโกแลต คาราเมล มีความกลมกล่อมและเปรี้ยวน้อยในแบบที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย

 

ส่วนตัวที่สองคือ Unicon เมล็ดคั่วกลางค่อนอ่อนเบลนด์ระหว่าง Washed Process และ Natural Process เหมาะสำหรับทำเมนูกาแฟร้อนรสชาติฟรุตตี้ ใครที่ชอบดื่มกาแฟรสติดเปรี้ยว และอยากได้เทสต์โน้ตของผลไม้ที่สดชื่นแนะนำเลย

 

กาแฟนม White (80 บาท) 

 

Caramel Matcha Latte (90 บาท)

 

แน่นอนว่าเมื่อคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพจากแหล่งเดียวมาใช้ เมนูจึงเป็นเมนูคลาสสิกยืนพื้นอย่าง กาแฟดำ Black (70 บาท) ที่มีคาแร็กเตอร์รสชาติของเมล็ดกาแฟชัดเจน และอีกเมนูคือ กาแฟนม White (80 บาท) ที่ทางร้านคิดค้นอัตราส่วน ปริมาณนม และปริมาณกาแฟ ให้เหมาะสมสำหรับเมล็ดกาแฟสวนแม่บู่หย่าที่สุด โดยทั้งสองเมนูสามารถเลือกเมล็ด House Blend ได้ทั้ง Chimera และ Unicon หรือใครชอบรสชาติแบบคาแร็กเตอร์ไหน สามารถลองให้บาริสต้าแนะนำเพิ่มเติมได้เลย

 

สำหรับคนที่ไม่ได้รับประทานกาแฟ ทางร้านแนะนำเมนู Caramel Matcha Latte (90 บาท) ซึ่งเป็นมัทฉะนมใส่ Sea Salt Caramel ที่ทางร้านเคี่ยวเอง รสชาติหวานละมุน สามารถเลือกปรับลดระดับความหวานได้ตามต้องการ ปิดท้ายด้วยเมนูขนมขายดีคือ Croissant Almond (100 บาท) และ Lemon Madeleine หรือขนมไข่ฝรั่งเศส (50 บาท) ที่มีรูปร่างคล้ายเปลือกหอยเคลือบด้วยเลมอนเกลซ มีความหอมเนยและเลมอน รสชาติหวานอมเปรี้ยว มาพร้อมเนื้อสัมผัสนุ่มและฉ่ำเมื่อรับประทานแบบอุ่นร้อน ส่วนถ้ารับประทานแบบเย็นก็จะได้เนื้อสัมผัสที่มีความหนุบหนับแทน

 

Croissant Almond (100 บาท) และ Lemon Madeleine หรือขนมไข่ฝรั่งเศส (50 บาท) 

 

การมา The Rubberer สิ่งที่เราได้มากกว่าการไปนั่งเล่นในคาเฟ่ทั่วไป คือการที่เราได้สัมผัสเรื่องราวของยางพารา ผ่านประสบการณ์การดื่มกาแฟที่คัดสรรเมล็ดมาด้วยคุณภาพ และการออกแบบร้านที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยการนำเสนอความเป็นระยองในรูปแบบที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อนได้อย่างประทับใจ เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่ควรค่าแก่การแวะมาสักครั้งหากมีโอกาส

 

 

The Rubberer

Location: ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง 

Open: เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-15.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดี

Budget: เครื่องดื่มเริ่มต้น 70 บาท

Website: https://www.facebook.com/TheRubberer

IG: https://www.instagram.com/therubberer/

Map:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X