การระบาดของโควิดระลอกล่าสุด ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่ละวันสูงเกือบหลัก ‘หมื่นคน’ กระทบต่อระบบสาธารณสุขที่จำนวนเตียงเริ่มไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วย ส่งผลให้ ‘ภาคเอกชน’ หลายแห่งต้องลุกขึ้นมาช่วยเท่าที่พอจะช่วยเหลือได้
ล่าสุด ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ได้นำอาคารเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาปรับปรุงเป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยรอเตียงฉุกเฉิน
โดยตันโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า “ดูข่าวแล้วหดหู่ ถามตัวเองว่าจะนั่งเฉยๆ หรือจะลุกขึ้นมาทำอะไร ผม คุณสรยุทธ น้องได๋ ไดอาน่า หมอแล็บแพนด้า เลยคิดว่าจะปรับปรุงตึกเก่าของผมเป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยรอเตียงฉุกเฉิน ตึก Wedding Plaza ทางเข้า RCA ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่เคยใช้เปิดเป็นคลินิก น่าจะรับคนได้ 100-120 คน ใช้ได้ช้าสุดไม่เกินต้นเดือนสิงหาคม หลังผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว”
ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH ได้ติดต่อไปยัง ‘ตัน’ เพื่อสอบถามสถานการณ์ ซึ่งเขามองว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดและวิกฤตการณ์ด้านเตียงรองรับผู้ติดเชื้อไม่เพียงพอเป็นเรื่องที่หากช่วยได้ก็ควรช่วยกัน และเขาคงไม่สามารถลงมือทำคนเดียวหรือหน่วยงานเดียวได้
เขากล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจากการติดตามข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวผู้รอการตรวจเชื้อซึ่งรอคิวอยู่จำนวนมาก ต่อเนื่องมาถึงข่าวจำนวนผู้ติดเชื้อแต่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาเพราะเตียงในระบบสาธารณสุขไม่เพียงพอ ซึ่งโดยส่วนตัวรู้จักกับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวจากช่อง 3, ได๋ ไดอาน่า หนึ่งในทีมงานเพจเราต้องรอด และหมอแล็บแพนด้า เจ้าของเพจหมอแล็บแพนด้า จึงร่วมกันทำอะไรสักอย่างที่พอจะให้การช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเหล่านี้ได้
ตันบอกว่า บังเอิญเขาเป็นเจ้าของอาคารซึ่งเป็นคลินิกเก่า จึงร่วมมือและประสานงานกันเพื่อปรับปรุงอาคารดังกล่าวมาใช้เป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยรอเตียงฉุกเฉิน
“ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ที่ใช้เป็นศูนย์พักคอย ก็จะเป็นลานโล่งหรือใช้พื้นที่ของวัด ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ห้องพักที่เป็นสัดส่วน มีจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนคน แต่คลินิกนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีห้องที่เป็นสัดเป็นส่วน ระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบแอร์ ที่เหมาะสม และความปลอดภัยทางด้านสุขอนามัย จึงเกิดเป็นไอเดียพัฒนาขึ้นมาเป็นศูนย์พักคอย”
ทั้งนี้ กระบวนการปรับปรุงอาคารเพื่อเป็นศูนย์พักคอยนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขมาควบคุมดูแลเรื่องความปลอดภัยและความเหมาะสม ให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขอย่างครบถ้วน
โดยทุกส่วนประสานงานจะเร่งมือเพื่อให้สามารถเปิดให้บริการศูนย์พักคอยแห่งนี้ได้ในต้นเดือนสิงหาคม ประเมินเบื้องต้นจะรองรับได้ราว 120 เตียง
ส่วนโอกาสที่จะนำอสังหาริมทรัพย์อื่นที่เป็นเจ้าของมาปรับปรุงเป็นศูนย์พักคอยในลักษณะนี้อีกหรือไม่นั้น ต้องดูเงื่อนไขและความเหมาะสมหลายประการมาก เพราะแค่การมีตึกหรือมีอาคารเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่ถือว่าครบเงื่อนไขที่จะปรับปรุงหรือพัฒนาอาคารขึ้นมา