ไต้หวันขยายมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทที่ลงทุนในการวิจัยเทคโนโลยีและผลิต หวังเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และช่วยรักษาตำแหน่งผู้นำในห่วงโซ่อุปทานชิปโลก หลังหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา เร่งเพิ่มการสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปในประเทศตัวเอง
ตามการแก้ไขกฎหมายที่ได้รับอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรีไต้หวันในวันนี้ (17 พฤศจิกายน) ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ จะสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล (Income Tax) ลงได้ 1 ใน 4 หากการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของพวกเขาถึงระดับที่กำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- TSMC เล็งสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
- TSMC ระงับการส่งซิลิคอนขั้นสูงให้ผู้ผลิตชิปในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนข้อบังคับของสหรัฐฯ
- จีนอวดสายการผลิต ‘Photonic Chip’ เป็นครั้งแรก เตรียมเดินเครื่องผลิตภายในปี 2023
มาตรการดังกล่าวยังช่วยลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทที่มีการลงทุนในอุปกรณ์ขั้นสูงอีก 5% ด้วย เนื่องจากรัฐบาลไต้หวันมีเป้าหมายส่งเสริมให้บริษัทเหล่านั้นลงทุนในการผลิตและพัฒนาในไต้หวันต่อไป
ในช่วงปีที่ผ่านมาหลายประเทศได้เพิ่มการสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปในประเทศตนเอง โดยให้คำมั่นว่าจะให้เงินอุดหนุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์แก่บริษัทที่เพิ่มการผลิต และกระจายการลงทุนออกจากจีนและไต้หวัน
โดยคำสัญญาเหล่านั้นนำไปสู่การสร้างหรือวางแผนโรงงานใหม่จำนวนมากในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป ทำให้ไต้หวันกังวลว่าตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของตนกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง
ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจต่างๆ ได้เตรียมแผนฉุกเฉิน ในกรณีที่บริษัทต่างชาติไม่สามารถดำเนินการในจีนได้อีกต่อไป หรือมีการเผชิญหน้าทางทหารรอบไต้หวัน
ความกังวลทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการพึ่งพิงการผลิตชิปในไต้หวันได้กระตุ้นให้บริษัทและประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นพยายามย้ายฐานผลิตออกจากไต้หวัน หรือออกห่างจากยักษ์ใหญ่ด้านชิปในท้องถิ่นอย่าง Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC
บริษัท Samsung Electronics กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกกำลังค้นหาแหล่งทางเลือกใหม่สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple Inc. เปิดเผยในการประชุมภายในว่า บริษัทกำลังเตรียมจัดหาชิปจากโรงงานที่กำลังก่อสร้างในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาการผลิตในเอเชียของบริษัท
อย่างไรก็ตาม คุกน่าจะหมายถึงโรงงานของ TSMC ที่กำหนดเปิดทำการในปี 2024 นอกจากนี้บริษัทกำลังพิจารณาโรงงานผลิตชิปแห่งที่ 2 ในสหรัฐฯ ด้วย
ปัจจุบันไต้หวันยังคงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระดับโลก โดยมากกว่า 90% ของชิปที่ทันสมัยที่สุดในโลกผลิตที่ไต้หวัน
อ้างอิง:
