นครซิดนีย์ของออสเตรเลียเผชิญกับฝนตกหนักเพิ่มอีกในวันนี้ (6 มีนาคม) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในภาคตะวันออกของประเทศเพิ่มเป็น 17 รายแล้ว รวมถึงผู้เสียชีวิตรายล่าสุดซึ่งเป็นหญิงจากรัฐควีนส์แลนด์ โดยเจ้าหน้าที่พบร่างของเธอเมื่อวานนี้ (5 มีนาคม)
ออสเตรเลียเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายอย่างหนัก โดยปริมาณน้ำฝนที่ตกในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางตอนใต้ของรัฐควีนส์แลนด์และตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์นั้นมากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกตลอด 1 ปี ส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนต้องย้ายที่อยู่อาศัย ขณะบ้านเรือน ทรัพย์สิน ถนนหนทาง รวมถึงภาคปศุสัตว์ ต่างก็ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น
กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนอาจทำให้เกิดฝนตกหนักระลอกใหม่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมสูง โดย เจน โกลดิง นักอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์ว่า “โชคไม่ดีที่เราต้องเผชิญกับฝนตกหนักและมีพายุไปอีกหลายวัน ซึ่งค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้อยู่อาศัยในรัฐนิวเซาท์เวลส์”
ส่วนระดับน้ำของแม่น้ำคลาเรนซ์ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์นั้นยังคงอยู่ที่ระดับน้ำท่วมใหญ่ แต่พยากรณ์อากาศระบุว่า สภาพอากาศจะกลับมาปลอดโปร่งตั้งแต่วันพุธ (9 มีนาคม) เป็นต้นไป
ด้านเมืองบริสเบนของรัฐควีนส์แลนด์และพื้นที่โดยรอบถูกพายุพัดถล่มอย่างหนักเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนเสียหายหลายพันหลังคาเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งเดินหน้าทำความสะอาดตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าอาจใช้เวลาหลายเดือนในการฟื้นฟูความเสียหาย และในขณะนี้มียอดบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลแห่งต่างๆ แล้วกว่า 2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อระดมความช่วยเหลือแก่ภาคส่วนต่างๆ ต่อไป
ภาพ: Lisa Maree Williams / Getty Images
อ้างอิง: