×

การ ‘ขิง’ กันระหว่าง Swensen’s และ KFC ทำให้ ‘ไอศกรีมไก่ทอด’ หมดเกลี้ยงใน 1 วัน จากที่ประเมินว่าจะขาย 2 สัปดาห์

21.04.2022
  • LOADING...
ไอศกรีมไก่ทอด

ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาบนหน้าไทม์ไลน์ Facebook ของใครหลายคนน่าจะเห็นการ ‘ขิง’ (ที่ไม่ได้แปลว่า สมุนไพร แต่เป็นคำศัพท์วัยรุ่นที่หมายถึงการอวดกัน) ระหว่างแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Swensen’s และ KFC

 

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากการที่ Swensen’s ออกมาประกาศขาย ‘ไอศกรีมไก่ทอด’ ที่บรรยายซะน่ากินว่า ไก่ทอดที่ละลายได้และสามารถกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

แน่นอนเมื่อพูดถึง ‘ไก่ทอด’ ย่อมนึกถึงยักษ์ใหญ่อย่าง KFC ที่วันนี้มีกว่า 927 สาขาทั่วไทย ก็ออกมาแซวกลับในโพสต์นั้นว่า ‘สู้ๆ จ้า ขอให้ขายหมดก่อนละลายน้าาา’ พร้อมกับโพสต์ในเพจของตัวเองว่า “ของจริง ไม่ต้องพูดเยอะ KFC ไก่ที่ไม่มีวันละลาย”

 

เอาล่ะ! ไหนๆ ก็ขิงกันมาขนาดนี้แล้ว Swensen’s จะอยู่นิ่งได้อย่างไร เลยเกิดการแซวกลับว่า ‘คูมพรี่ค้าาาา ไก่ทอดหาดใหญ่ก็ไม่มีวันละลายเหมือนกันค่า ยุคนี้เค้าต้องไก่ละลายแล้ว แต่ถ้าคูมพรี่อยากลองกินบอกน้องนะ เดี๋ยวน้องส่งไปให้ชิมแล้วฝากรีวิวลงเพจ’

 

ตามมาถึงถิ่นขนาดนี้จะยอมได้อย่างไร KFC เลยตอบกลับไปว่า ‘อุ๊ย! ส่งมาได้เลยจ้ะน้องรัก ขอให้ขายดีๆ น้า เป็นกำลังจั๊ย! #รักนะจ๊ะ’

 

สุดท้ายกระแสการขิงของทั้งคู่ก็ช่วยให้ ‘ไอศกรีมไก่ทอด’ เป็นไวรัลที่หลายคนเข้ามาจับตามอง และสามารถทำให้สินค้าขายหมดเกลี้ยงภายใน 1 วันจาก 315 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งเร็วกว่าที่ Swensen’s ประเมินไว้ว่าจะขายอยู่ราว 2 สัปดาห์ด้วยกัน 

 

นี่ถือเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของ ‘Real-Time Marketing’ ที่ช่วยสร้างกระแสให้แบรนด์เป็นที่สนใจของลูกค้า ซึ่งการขิงกันระหว่าง Swensen’s และ KFC ถือเป็นสีสันน่ารักที่เราไม่ได้เห็นบ่อยนักในเมืองไทย

 

“เรามองว่าเหตุผลที่ไอศกรีมไก่ทอดขายดี เพราะไก่ทอดเป็นเมนูที่ลูกค้าเห็นแล้วสามารถเข้าใจได้ทันที ตลอดจนวิธีการโปรโมตก็ทำให้คนสนใจมากขึ้นด้วย” อนุพนธ์ นิธิยานันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย) จำกัด กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH กล่าว

 

กระนั้น “สิ่งที่ต้องระวังในการทำ Real-Time Marketing คือ การทำให้เป็นเรื่องตลกโบ๊ะบ๊ะที่ทำให้ใครเห็นก็ชอบไปด้วย ซึ่งเวลาเราจะเล่นอะไรที่ต้องพาดพิงไปถึงแบรนด์อื่นเราต้องดูกระแสเอ็นเกจเมนต์ที่เกิดขึ้นด้วย”

 

‘ไอศกรีมไก่ทอด’ เป็นสินค้าที่อยู่ภายใต้กลุ่ม Novelty ซึ่งเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2020 โดยมีเป้าหมายในการออกสินค้าเหมาะสมสำหรับการนำกลับไปกินที่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมามีการออกไอศกรีมแซนด์วิชรวมไปถึงไอศกรีมทาร์ตไข่ที่วางขายมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ที่ได้อานิสงส์จากไวรัลครั้งนี้ด้วย

 

“ไอศกรีมไก่ทอดไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในไทย แต่มีวางขายมาแล้วหลายประเทศ ใกล้สุดก็สิงคโปร์ ซึ่งด้วยความที่เราเป็นโกลบอล แบรนด์เราจึงสามารถหยิบนวัตกรรมจากประเทศอื่นๆ มาใช้ได้” แม่ทัพ Swensen’s กล่าว “แต่สำหรับไอศกรีมทาร์ตไข่เป็นสิ่งที่เราพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ไอศกรีมเป็นรสชาติทาร์ตไข่ด้วย”

 

นอกจากไอศกรีมไก่ทอดแล้ว Swensen’s ยังได้รับผลดีจากไวรัลอย่าง MILLI หรือ มิลลิ (มินนี่-ดนุภา คณาธีรกุล) กิน #ข้าวเหนียวมะม่วง บนเวที Coachella เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก ก็ทำให้ไอศกรีมมะม่วงขายดีขึ้นมาประมาณ 5-10% ด้วยกัน

 

ตามแผนของ Swensen’s จะมีการออกสินค้าในกลุ่ม Novelty ไตรมาสละอย่างน้อย 1 SKU โดยเชื่อว่าปีนี้รายได้จากสินค้ากลุ่มนี้จะโตขึ้นไม่น้อยกว่า 300-500% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากฐานที่ไม่สูงมากนัก

 

โดย Novelty จะถูกนับอยู่ในยอดขายที่มาจากเดลิเวอรีและซื้อกลับบ้าน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดขายทั้งหมด (แบ่งเป็นช่องทางละ 15%)

 

สำหรับ ‘ไอศกรีมไก่ทอด’ ที่ขายหมดไปแล้ว และยังมีกระแสเรียกร้องเข้ามา ผู้บริหาร Swensen’s ก็ขอไม่ตอบในทันทีว่าจะมีวางขายอีกหรือไม่ โดยบอกแค่ว่า รอดูเซอร์ไพรส์ได้เลย ดังนั้นอีกไม่นานเราน่าจะกลับมาได้ลิ้มลองอีกครั้งแน่ๆ แต่เป็นเมื่อไรนั้นคงต้องติดตามตอนต่อไป

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising