ออง ซาน ซูจี ผู้นำคนสำคัญของเมียนมา เดินทางเยือนทางตอนเหนือของรัฐยะไข่เป็นครั้งแรกในวันนี้ หวังคลี่คลายปมปัญหาการกวาดล้างชาวโรฮีนจาอย่างหนักตลอดช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยเธอยืนยันว่ารัฐบาลเมียนมาจะยังคงสนับสนุนแผนการและขั้นตอนการขอกลับคืนสู่ถิ่นฐานเดิมของชาวโรฮีนจาต่อไป หลังจากที่อพยพไปยังบังกลาเทศเป็นจำนวนมาก
ภายหลังจากที่เดินทางถึงซิตตเว เมืองหลวงของรัฐยะไข่ เธอรีบมุ่งหน้าสู่ทางตอนเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนมุสลิมชาวโรฮีนจาทันที โดยกล่าวว่า เมื่อปี 2015 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ตนเคยเดินทางมายังตอนใต้ของรัฐยะไข่ ซึ่งที่นั่นไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งทางชาติพันธุ์และศาสนามากเท่าใดนัก
ในขณะที่นายซอว์ ฮเตย์ โฆษกของนางออง ซาน ซูจี ออกมาเผยว่ารัฐบาลจะไม่เปิดเผยแผนการเดินทางของเธอกับสื่อ เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ความขัดแย้งเช่นนี้
นับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมเป็นต้นมา มีชาวโรฮีนจามากกว่า 6 แสนคนอพยพออกนอกประเทศ หลังจากกองทัพเมียนมาเริ่มปฏิบัติการกวาดล้าง ‘ความเป็นอื่น’ อย่างหนัก จนสหประชาชาติและประชาคมโลกต่างเป็นห่วงความปลอดภัยของชาวโรฮีนจาที่ยังคงอาศัยอยู่ภายในรัฐยะไข่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาสั่งระงับปฏิบัติการที่โหดร้ายราวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุนี้โดยเร็ว
นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของผู้นำเมียนมาอีกครั้ง ภายหลังจากถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและถูกตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วนางออง ซาน ซูจี และคณะรัฐบาลเมียนมาชุดปัจจุบันมีอำนาจที่แท้จริงมากน้อยแค่ไหนกันแน่ หรือระบอบเผด็จการที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมเมียนมามาอย่างยาวนานจะยังคงทำงานได้ดีอยู่จนถึงปัจจุบัน?
Photo: AFP
อ้างอิง: