วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ที่กระทรวงกลาโหม สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีออกมาตอบโต้เรื่องยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า มีคนเข้าใจผิด ตีความไปอีกแบบ เหมือนกับว่าตนไปเปิดไฟเขียวให้ กอ.รมน. ทำไอโอ ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าเราไม่ยุบ กอ.รมน. แต่จะปรับเรื่องภารกิจและกำลังคนให้กระชับ ไม่ทับซ้อน เมื่อปรับแล้วก็ดูผลต่อไปอีกสักระยะ อาจมาทบทวนถ้าบริบทมันเปลี่ยนไปแล้ว ภารกิจไม่สอดคล้อง จะยุบก็ค่อยว่ากัน แต่ระยะเวลานี้ยังไม่มี
เมื่อผู้สื่อถามถึงกรณีที่สุทินระบุว่าไม่เป็นรัฐบาลไม่รู้ว่ายุบ กอ.รมน. ทำยาก นั้นสุทินว่า ตนพูดถึงทุกนโยบายว่าคนที่ไม่ได้มาทำ ไม่ได้มาเป็นรัฐบาล คิดว่าทุกอย่างมันง่าย ทำอะไรก็ได้ก็พูดไป แต่มาทำจริงๆ จะพบว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เกรงกลัว แต่หลักทั่วไปของการบริหารและข้อกฎหมายระเบียบปฏิบัติ บุคลากรไม่ใช่วัตถุที่จับโยกหมุนเวียน จับตั้งได้ ซึ่งเป็นที่บอกว่ายาก
ส่วนความคืบหน้าการเจรจากับจีนที่จะเปลี่ยนจากโครงการจัดหาเรือดำน้ำมาเป็นเรือฟริเกตแทนว่า อยู่ในขั้นตอนการดูช่องทางต่างๆ โดยเร็วๆ นี้ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะประชุมหารือกับกองทัพเรือ เนื่องจากกรอบเวลาสัญญาการต่อเรือดำน้ำที่เคยขยายจากช่วงโควิดจะสิ้นสุดในช่วงเดือนธันวาคม 2566 และตนจะพูดคุยกับจีนในงาน Defence and Security สัปดาห์หน้า ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งจะมีบริษัทต่อเรือของจีนมาร่วมงานด้วย และจะมีการพูดคุยกันให้ได้ความชัดเจนในงานประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีกระแสข่าวว่ากองทัพเรือมาต่อรองอยากได้เรือดำน้ำกลับมา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์จีนหรือไม่ สุทินกล่าวว่า เขาไม่ได้มาต่อรองอะไร ทางกองทัพเรือก็รู้ข้อจำกัดและเห็นว่าปัญหาจะยุ่งยาก แต่เชื่อว่าจะมีทางออก ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าทางเยอรมนีจะเปลี่ยนใจขายเครื่องยนต์ให้จีนเพื่อต่อเรือดำน้ำให้ไทยหรือไม่ ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น งบประมาณปี 2567-2568 จะมีปัญหาเรื่องเงื่อนไขเวลา ก็ให้ทุกเหล่าทัพปรับแผนการทำงานให้ทัน เพราะเงื่อนไขเวลาผิดปกติ การบริหารจัดการจะยาก