Chanel ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ลักชัวรีอันดับต้นๆ ของวงการที่ได้ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนมานานหลายปี แม้จะไม่ได้พีอาร์การตลาดออกมาแบบฟู่ฟ่าให้ได้รู้กันมากนัก
ล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้ร่วมงานอย่างเป็นทางการกับ Politecnico di Milano เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอิตาลีได้ทำรีเสิร์ชที่จะช่วยแนะนำแนวทางและปรับโครงสร้างต่างๆ ภายใต้ Chanel ในอนาคต โดยเฉพาะด้านการผลิตสินค้าที่จะสร้างความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยทาง Politecnico di Milano ก็ถือได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของยุโรปที่โฟกัสด้านความยั่งยืน ซึ่งเห็นได้ชัดจากการมีคอร์สหลักสูตรต่างๆ มากมาย เช่น International Master in Sustainability Management and Corporate Social Responsibility และ International Master in Environmental Sustainability and Circular Economy
การร่วมมือของ Chanel และ Politecnico di Milano ในครั้งนี้ถูกต่อยอดหลังจากทางแบรนด์ได้ไปจัดแฟชั่นโชว์ Métiers d’art 2021/2022 รอบพิเศษ ณ กรุงฟลอเรนซ์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมได้เชิญเด็กนักเรียนจากมหาวิทยาลัยให้ไปฟังทอล์ก Masterclass ของ Bruno Pavlovsky ประธานของแบรนด์ กับอีกหลายคนดัง อาทิ Penélope Cruz หนึ่งใน Global Brand Ambassador ของ Chanel
แต่ Chanel ไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เพราะหากไปอ่านรีพอร์ตด้านกลยุทธ์ความยั่งยืนของแบรนด์ที่ชื่อ Chanel Mission 1.5 เราก็จะเห็นว่าทางแบรนด์แฟชั่นจากประเทศฝรั่งเศสได้เซ็นสัญญากับอีกหลายองค์กร และมีการตั้งเป้ามากมาย อย่างเช่น ภายในปี 2030 ทาง Chanel อยากลด Carbon Footprint ของตัวเอง 50%, ตั้งเป้าจะใช้พลังงานแบบหมุนเวียน (Renewable Energy) 100% ภายในปี 2025 สำหรับทุกหน่วยงานแบรนด์เป็นเจ้าของ, พยายามให้ทุกร้านที่สร้างใหม่หรือปรับปรุงใหม่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว (LEED Certification) ซึ่งตอนนี้มี 65 ร้านของ Chanel ได้รับแล้ว, ปรับเปลี่ยนการขนส่งสินค้าจากฐานผลิตในประเทศฝรั่งเศส อย่างเช่นในปี 2019 กว่า 80% ของน้ำหอมและสินค้าความงามได้ถูกส่งจากเรือไปอเมริกา แทนที่จะเป็นเครื่องบิน, ปรับปรุงให้ออฟฟิศในแต่ละประเทศมาพร้อมอุปกรณ์วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ทันสมัยที่สุด เพื่อลดการบินไปประชุมของพนักงาน และการเซ็นสัญญาร่วมมือกับบริษัท Sulapac จากฟินแลนด์ เพื่อผลิตวัสดุสำหรับแพ็กเกจจิ้งสินค้าที่ย่อยสลายได้ แทนที่จะใช้พลาสติก เป็นต้น
ภาพ: Chanel
