×

ผลสำรวจชี้ ชัยชนะของแฮร์ริสอาจส่งผลดีต่อพันธบัตรสหรัฐฯ แต่ส่งผลเสียต่อหุ้น

17.09.2024
  • LOADING...
แฮร์ริส

จากผลสำรวจความคิดเห็นของ MLIV Pulse ที่จัดทำขึ้นในกลุ่มผู้ใช้ Bloomberg Terminal ระบุว่า หาก คามาลา แฮร์ริส ชนะในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ อาจส่งผลดีต่อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และมีผลเสียต่อตลาดหุ้นมากกว่าชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์

 

ผู้เข้าร่วมการสำรวจครึ่งหนึ่งเผยว่า พวกเขาพร้อมที่จะเพิ่มการเดิมพันในตลาดหุ้น หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ขณะที่มีเพียง 28% เท่านั้นที่ระบุว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้นหากแฮร์ริสได้เป็นประธานาธิบดี ในขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 340 คนระบุว่า พวกเขาจะลดการลงทุนในพันธบัตรหากทรัมป์ได้รับชัยชนะ และมีผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 23% กล่าวว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้น หากแฮร์ริสได้รับชัยชนะ

 

นักลงทุนสถาบันระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์จากพรรครีพับลิกันอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินมากกว่าการบริหารของแฮร์ริสของพรรคเดโมแครต ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 1 ใน 3 ระบุว่า พวกเขาจะคงการถือหุ้นไว้เท่าเดิมหากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง เทียบกับ 24% หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามมีแผนที่จะคงสัดส่วนการถือหุ้นในพันธบัตรเท่าเดิมภายใต้การนำของแฮร์ริส เมื่อเทียบกับ 37% ภายใต้การนำของทรัมป์

 

แม้ว่าการสำรวจนี้จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างผู้สมัครทั้งสองฝั่งอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่มีการดีเบตระหว่างทรัมป์กับแฮร์ริส ผู้ตอบแบบสอบถาม 54% กล่าวว่า พวกเขายังไม่ได้เตรียมการสำหรับการเลือกตั้ง

 

ปีการเลือกตั้งโดยทั่วไปถือเป็นปีที่ดีสำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นในเกือบทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งนับตั้งแต่ปี 1960 ยกเว้นเพียงในปี 2000 และ 2008 ที่ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของธุรกิจดอตคอม และวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งล่าสุดปี 2012, 2016 และ 2020 ดัชนีอ้างอิงปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 10% เลยทีเดียว

 

นอกจากนี้ ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นไม่ว่าใครจะนั่งในทำเนียบขาวก็ตาม ผลตอบแทนราคาเฉลี่ยต่อปีของดัชนี S&P 500 จากข้อมูลย้อนหลังไปถึงปี 1945 อยู่ที่ 11% ภายใต้พรรคเดโมแครต และ 7% ภายใต้พรรครีพับลิกัน มีเพียงประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช คนเดียวจาก 6 คนล่าสุดที่พบว่า ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงภายใต้การบริหารของเขา

 

อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ช่วยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2024 โดยผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งหนึ่งระบุว่า ราคาพันธบัตรมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระหน้า

 

ในขณะที่การผ่อนปรนนโยบายการเงินมักจะส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรลดลงและราคาพันธบัตรสูงขึ้น แต่แผนการคลังที่ขยายตัวมักจะมีผลตรงกันข้าม ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้ง 2 คนคาดว่าจะเพิ่มการกู้ยืมของรัฐบาลกลาง ข้อเสนอของทรัมป์ที่จะขยายการลดภาษีอย่างถาวรตั้งแต่ปี 2017 อาจส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP อยู่ที่ 142% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณ 20% ตามข้อมูลของ Bloomberg Economics

 

ผู้ตอบแบบสำรวจของ Bloomberg ส่วนใหญ่คาดว่า สหรัฐฯ จะหลีกเลี่ยงการปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลกลางภายใต้ประธานาธิบดีคนต่อไปได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งเท่านั้นในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนที่ตอบแบบสำรวจประมาณ 2 ใน 3 มองว่า หุ้นสหรัฐฯ จะมีผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า เนื่องจากความพิเศษของหุ้นสหรัฐฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นขับเคลื่อนจากความตื่นเต้นที่มีต่อปัญญาประดิษฐ์ และบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น NVIDIA Corp. หรือ Apple Inc. จะยังคงครองตลาดสหรัฐฯ ต่อไป

 

แม้นักลงทุนจะมองว่าการบริหารภายใต้ทรัมป์จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นมากกว่า แต่จุดยืนของทรัมป์และแฮร์ริสคาดว่าจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่างๆ แตกต่างกัน โดยชัยชนะของแฮร์ริสคาดว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทพลังงานหมุนเวียน ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และแม้แต่สาธารณูปโภค นอกจากนี้แฮร์ริสยังอาจหลีกเลี่ยงสงครามการค้ากับจีนได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับวาทกรรมสุดโต่งของทรัมป์เกี่ยวกับการค้าและภาษีศุลกากร

 

ในขณะเดียวกัน บริษัทน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานแบบดั้งเดิม น่าจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากชัยชนะของทรัมป์ เนื่องจากทรัมป์ให้คำมั่นที่จะยกเลิกข้อจำกัดในการผลิตน้ำมันในประเทศ หุ้นสกุลเงินดิจิทัลยังอาจปรับตัวขึ้น เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising