×

สุรชาติ เพื่อไทย ปราศรัยโค้งสุดท้าย ไม่ขอขัดแย้ง มุ่งทำงานรับใช้ประชาชน ขออาสาทวงคืนศักดิ์ศรีพี่ป้าน้าอาพาเข้าสภา

โดย THE STANDARD TEAM
29.01.2022
  • LOADING...
สุรชาติ เทียนทอง

วันนี้ (28 มกราคม) สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เบอร์ 3 เขตเลือกตั้งที่ 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคเพื่อไทย ปราศรัยบริเวณสวนสาธารณะเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง โดยมีประชาชนร่วมฟังการปราศรัยและให้กำลังใจจำนวนมาก โดยสุรชาติประกาศขอชนะไปพร้อมกับชัยชนะของชาวหลักสี่และจตุจักร พร้อมอาสาทวงคืนศักดิ์ศรีคนหลักสี่และคนจตุจักรเข้าสภาผู้แทนราษฎร

 

สุรชาติกล่าวว่า การเป็น ส.ส. เป็นความฝันเดียว ซึ่งที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนเคยช่วยกันทำให้ฝันนั้นเป็นจริงมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่วันนี้่มีฝันที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ อยากเป็นผู้แทนราษฎรที่จะทำงานรับใช้ประชาชน เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น แต่เรื่องนี้ไม่สามารถทำคนเดียวได้ พี่น้องประชาชนและพรรคเพื่อไทยหากร่วมมือกันจะทำได้

 

สุรชาติกล่าวถึงการออกมาพูดในระหว่างการหาเสียงเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น เพราะเมื่อครั้งเป็น ส.ส. ปี 2554 ในช่วง 2 ปีกว่าๆ ได้มีส่วนในการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยมีโอกาสเข้าพบอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงในยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลให้ได้ เพราะมีความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ 3-4 เขตปกครอง รวมไปถึงพี่น้องในปริมณฑลก็จะได้ใช้ประโยชน์ และสุดท้ายรถไฟฟ้าสายสีแดงก็ได้รับการอนุมัติให้ก่อสร้างในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นำโดยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์

 

“วันนี้ที่ต้องพูดถึงราคาค่ารถไฟฟ้า เพราะรถไฟฟ้าสายสีแดงพี่น้องประชาชนในพื้นที่หลักสี่ส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้ใช้ เนื่องจากราคาค่าโดยสารยังคงสูงเกินไป เราสร้างรถไฟฟ้ามาเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ ไม่ได้สร้างเอาไว้เป็นอนุสาวรีย์หรือให้เฉพาะคนที่มีเงินได้ใช้” ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย กล่าว พร้อมย้ำว่า ใครก็ตามที่พยายามร้องเรียนเรื่องนี้หรือพยายามดึงให้ผมเข้าสู้ความขัดแย้งนั้นคงไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา 17 ปี พี่น้องประชาชนรับรู้ดีว่าการทำงานทั้งหมดเป็นการทำเพื่อประชาชน และการหาเสียงครั้งนี้เพื่อกลับเข้าสภาไปทำงานรับใช้ประชาชน

 

การเมืองของผมคือการให้เกียรติประชาชน นโยบายก็ต้องเป็นนโยบายที่ให้เกียรติประชาชน สำหรับผมนโยบายที่ให้เกียรติประชาชนเช่นนั้นคือนโยบาย SML ที่ให้พี่น้องประชาชนได้มีอำนาจในการใช้งบประมาณและตัดสินใจแก้ปัญหาในชุมชนด้วยตัวเอง นี่คือจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยและการให้เกียรติประชาชน แล้วขณะนั้นผมได้ใช้ความเป็นผู้แทนราษฎรเข้าไปร่วมประสานงานโครงการนี้ ซึ่งเขตหลักสี่เป็นพื้นที่ที่ทำโครงการ SML ได้มากที่สุดในกรุงเทพฯ

 

อีกเรื่องที่พูดเสมอคือ การปฏิรูประบบราชการ ผมใช้เวลา 17 ปีเป็นผู้รับใช้ประชาชน ทุกครั้งที่ผมเห็นนักการเมืองหรือข้าราชการทำตัวเหนือประชาชน ผมจะเดินไปบอกเสมอว่าไม่มีใครอยู่เหนือประชาชนได้ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะไม่ใช่การทำลายล้าง แต่จะเปลี่ยนแปลงด้วยทัศนคติที่ดี ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยที่เคยปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่มาแล้ว ซึ่งไม่เพียงทำให้ประชาชนมีความสุข แต่พี่น้องข้าราชการก็มีความสุขมากขึ้นด้วยนั้น เราจะทำอีกครั้งหนึ่ง

.

17 ปีที่ผ่านมา ผมล้มลุกคลุกคลาน ผิดหวังมากกว่าสมหวัง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว วันที่ผมแพ้การเลือกตั้ง วันต่อมาผมขึ้นรถแห่ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่ป้าน้าอาที่มอบให้ วันนั้นเป็นวันที่ผมต้องเสียน้ำตา เพราะไม่ว่าผมจะไปจุดไหนก็จะมีพี่ป้าน้าอามาร้องไห้กับความพ่ายแพ้ของผม แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการออกไปหาพี่ป้าน้าอาทุกวัน และบอกตัวเองว่าวันนี้จะแพ้ไม่ได้อีกแล้ว

 

“ผมจะต้องชนะเพื่อทวงศักดิ์ศรีให้พี่ป้าน้าอาและพี่น้องคนหลักสี่และจตุจักรทุกคน วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคมนี้ เราจะชนะไปด้วยกัน แล้วผมจะแบกเอาศักดิ์ศรีคนหลักสี่และคนจตุจักรเข้าสภา” สุรชาติกล่าว

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising