หลังจากช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราจะได้ยินข่าวการหยิบเรื่อง ‘ซูเปอร์ฮีโร่หญิง’ ออกมาตีตลาดวงการภาพยนตร์หลายครั้ง ตั้งแต่ Wonder Woman จากฝั่ง DC หนังภาคเดี่ยวของ Black Widow จากค่าย Marvel (น่าจะได้ดูกันช่วงต้นปี 2020) Faith ซูเปอร์ฮีโร่สาวพลัสไซส์ ที่กำลังอยู่ในกระบวนการสร้าง
ล่าสุดทางฝั่ง Warner Bros. และ DC เพิ่งประกาศว่าจะนำเรื่องราวของลูกพี่ลูกน้อง Superman อย่าง Supergirl มาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยเธอจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนใหม่ในจักรวาล DC
ความคิดดังกล่าวเริ่มต้นมาจาก วอลเตอร์ ฮามาดะ ผู้บริหารคนใหม่ของ DC ที่เข้ามารับหน้าที่ปรับเปลี่ยนทิศทางของหนังในค่ายใหม่ทั้งหมด (คนเดียวกับที่คิดโปรเจกต์หนังภาคแยกเรื่อง Joker ที่ได้ โจควิน ฟีนิกซ์ รับบทเป็นโจ๊กเกอร์) หลังจากภาพยนตร์เรื่องหลังๆ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และถูกแฟนหนังมองว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ของ DC โดนค่ายคู่แข่งอย่าง Marvel ทิ้งห่างอยู่หลายช่วงตัว
ฮามาดะมองว่า Supergirl มีศักยภาพมากพอที่จะกู้ความเชื่อมั่นของแฟนหนังกลับมาได้ เพราะอย่างน้อยซีรีส์ Supergirl ที่ฉายทางช่อง The CW ก็นับว่าประสบความสำเร็จหลังจากเดินทางมาได้ถึงซีซัน 4 อย่างสวยงาม มีแฟนๆ ติดตามอยู่พอสมควร
ข้อมูลเรื่องอื่นๆ ของ Supergirl เวอร์ชันนี้ยังไม่มีการเปิดเผย นอกจากวางตัว โอเรน ยูเซล จาก 22 Jump Street และ The Cloverfield Paradox มารับหน้าที่พัฒนาบท และคาดว่าจะใช้เส้นเรื่องเดียวกับในซีรีส์ ที่มีตัวละครหลักคือ คารา เดนเวอร์ หญิงสาวที่เบื้องหน้ามีปัญหากับเพื่อนผู้ชายไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่นทั่วไป แต่เบื้องหลังเธอคือ 1 ใน 2 ของชาวคริปตันที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดาวระเบิดมาพร้อมกับซูเปอร์แมน (แต่ซูเปอร์แมนมาอยู่บนโลกก่อนหลายปี)
ปัญหาที่ DC ต้องคิดอย่างหนักหากต้องการเพิ่มให้เธอเข้ามาอยู่ในจักรวาลภาพยนตร์เดียวกับซูเปอร์ฮีโร่ DC คือจะอธิบายการปรากฏตัวของเธออย่างไร เพราะในทุกๆ สงครามที่เกิดขึ้นในจักรวาล DC ไม่เคยมีการพูดถึง Supergirl มาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว
นอกจากขั้นตอนพัฒนาบท ทาง DC ก็กำลังตามหานักแสดงหญิงที่เหมาะสมกับบทบาท Supergirl รวมทั้งผู้กำกับ ‘หญิง’ ที่สามารถถ่ายทอดพลังของหญิงสาวผู้แข็งแกร่งไม่แพ้ผู้ชายอยู่เช่นกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า