‘ท่าเตียน’ ย่านเก่าแก่รวยเสน่ห์ที่เคยมีแต่เรื่องเล่าขานแห่งอดีต และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนไม่ขาดสายได้กลับมาทวงความคึกคักอีกครั้ง หลังจากร้านรวงรุ่นใหม่ต่างรวมพลกันนำความสนุกของเรื่องกินดื่มเที่ยวแบบโมเดิร์นมาประดับประดาถนนย่านเมืองเก่าแห่งนี้จนคนรุ่นใหม่ต่างแห่กันไปเยือนไม่แพ้ชาวต่างชาติ และหนึ่งในบรรดาร้านเลือดใหม่ที่ว่าก็คือ Supanniga (สุพรรณิการ์) บ้านหลังที่ 3 ของห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ ที่ตั้งอยู่ติดกับ Riva Arun นี่เอง
The Vibe
แม้จะหาร้านไม่ได้ง่ายๆ หรือเดินหลงมาพักใหญ่เมื่อไม่คุ้นย่านท่าเตียน แต่เมื่อมาถึง ดนตรีแจ๊ซกับวิวตรงหน้าของ ‘Supanniga x Roots’ หรือ ‘ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ บาย คุณยาย X รูทส์ คอฟฟี่’ ก็ขับกล่อมจนลืมเหนื่อย จากโป๊ะเรือเก่าๆ ริมน้ำเจ้าพระยาถูกแปลงร่างให้กลายมาเป็นเรือนไม้ 2 ชั้นที่เต็มไปด้วยมุมน่านั่ง แต่งเติมด้วยสีสันสดใสของเก้าอี้และหมอนอิง (โดยเฉพาะสีเหลืองของดอกสุพรรณิการ์) มีรายละเอียดแบบไทยๆ ที่ขี้เล่นปนอยู่ แตกต่างจาก 2 สาขาแรกที่ให้ความรู้สึกทางการและห่มคลุมด้วยความขรึมมากกว่า ทั้งเครื่องปั้นดินเผา ผ้าไหมมัดหมี่ ดอกสุพรรณิการ์ ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายขณะรับลมเย็นๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
มุมทำเลทองที่มักต้องแย่งจับจองกันอย่างเข้าใจได้คือบริเวณลานด้านนอกชั้น 2 ซึ่งมีที่นั่งหันหน้าออกริมน้ำ พร้อมกับยกวิววัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (ที่เพิ่งบูรณะเสร็จไปหมาดๆ) มาไว้ถึงตรงหน้า จะว่าไปนี่คือมุมหันหลังให้กับความชวนหัวหมุนของเมือง หลบมาชมวิถีริมน้ำแบบไทยๆ ที่เต็มไปด้วยสีสัน พร้อมกับมีวิววัดวาอารามเป็นฉากหลังอีกด้วย และสามารถแวะมาจิบกาแฟแบบไทยๆ หรือดื่มด่ำกับวิวและอาหารกันได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เพราะเป็นคอนเซปต์ All Day Dining ให้แวะมาฝากท้องเมื่อใดก็ได้
The Dishes
รสชาติตำรับสุพรรณิการ์ดึงรสอร่อยมาจากจังหวัดขอนแก่นและตราด อันเป็นสถานที่ซึ่งหนึ่งในผู้ก่อตั้งคุ้นเคย โดยเป็นปณิธานของ คุณเอ้-ธนฤกษ์ เหล่าเราวิโรจน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านอาหาร Supanniga และ Somtum Der ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารฝีมือเด็ดของคุณยายชาวขอนแก่น ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน โดยจับมือกับ คุณธัช-ธัชชัย นาคพันธุ์ หนึ่งในผู้สร้างสรรค์ร้านอย่าง Est.33 และ Minibar Royale มาแล้ว
ลองชิมอาหารชุดกินเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ในทุกสาขา ชุดอาหารทานเล่นสุพรรณิการ์ (295 บาท) ประกอบด้วย ม้าฮ่อ กลีบส้มสดที่มีหมูสับรสเผ็ดอร่อยแบบจัดจ้าน โรยด้วยถั่วกรุบๆ และยังมีข้าวตังหน้าพริกเผากากหมู แนะให้ลองชิมข้าวตังหอมกรอบๆ ก่อน แล้วลองจิ้มน้ำพริกเผาโขลกกากหมูสับและกุ้งแห้ง เพิ่มความเผ็ดร้อน เรียกน้ำย่อยได้ดี หรือเมี่ยงหยอง ใบชะพลูเครื่องสมุนไพรใส่มะพร้าวคั่ว มื้อหนักตำรับแบบสุพรรณิการ์ที่ต้องลองคือ หมูชะมวง (240 บาท) แกงหมูชะมวงในเครื่องแกงแดงที่ใช้ใบชะมวงย่างอ่อนๆ เคี่ยวกับคอหมูจนเข้าเนื้อ ได้รสเปรี้ยวกลมกล่อม ความเปรี้ยวตัดกับมันหมู หากคุณคิดว่าที่นี่จะเสิร์ฟอาหารเอาใจฝรั่ง คุณคิดผิดเสียแล้ว ด้วยรสชาติจัดจ้าน จานนี้อร่อยล้ำ คนรักหมูชะมวงเป็นต้องปลื้ม
อย่าลืมลอง น้ำพริกไข่ปู (240 บาท) ที่ปูเป็นปู เนื้อแน่น นุ่ม อวบ ได้รสหวานจากไข่ปูอร่อยๆ ความหวานเปรี้ยวนี้กินกับข้าวสวยร้อนๆ และผักเคียงแล้วอร่อยเลิศ นอกเหนือจากนั้น เมนูถูกใจเราแบบที่ไม่รสจัดเกินไปยังมีทั้ง กะหล่ำทอดซีอิ๊ว (170 บาท) มีทีเด็ดตรงน้ำปลาที่ใช้ทอดเป็นน้ำปลาดีเมืองตราด และ ไข่ลูกเขย (170 บาท)
นอกเหนือจากอาหารคาวแล้ว สุพรรณิการ์ก็ขึ้นชื่อเรื่องรสอาหารหวานที่เด่นไม่น้อยหน้ากันเลย ดังนั้นมาแล้วลองสั่ง สังขยาอัญชันขนมปังนึ่ง (150 บาท) ขนมปังนึ่งเด้งดึ๋งกำลังอุ่นๆ จิ้มลงไปในสังขยาอัญชันสีฟ้าสวย ซึ่งจะยิ่งได้รสเมื่อรับประทานคู่กับกาแฟสูตรพิเศษอย่างเมนูหนุมาน
The Drinks
แค่ชื่อร้านก็การันตีแล้วว่าไม่ได้มีแต่อาหารให้นางสาวสุพรรณิการ์มานั่งชมวิวเปล่าเปลี่ยวริมท่าน้ำ เพราะควงแขนร่วมกับแบรนด์กาแฟอย่าง Roots คัดกาแฟเชียงรายพิเศษมาสร้างสรรค์เป็น 3 เมนูสกัดเย็น (cold brew) สำหรับสาขานี้โดยเฉพาะ โดยมีกลิ่นอายความเป็นขนมหวานแบบไทย (แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะหวานแบบขนมหรอกนะ) แนะนำให้จับคู่กับขนมหวานเพื่อเพิ่มเติมอรรถรสให้กับวิววิถีไทยตรงหน้าขึ้นได้อีกเป็นทวีคูณ
หากยังไม่อยากจัดกาแฟไปเต็มๆ ยามบ่าย ลอง Granita Cold Brew (120 บาท) น้ำแข็งไสจากชาข้าวคั่วของเชียงราย เติมความหวานละมุนเบาลิ้นด้วยน้ำตาลสด มีวุ้นว่านหางจระเข้เสิร์ฟด้านบน เพิ่มรสสัมผัสให้เคี้ยวเล่นกันหนุบๆ ราดด้วยซอสน้ำตาลโตนด แก้วนี้มัดใจเราด้วยความหอมของข้าวคั่วที่จิบแล้วต้องจิบอีก
Hanuman Cold Brew (140 บาท) กาแฟโคลด์บรูว์หนุมานคลุกฝุ่นแก้วนี้มีความเปรี้ยวชัดเจน จากการอินฟิวส์กับขนุนแห้ง ชาหอมหมื่นลี้ และชาอู่หลง มีกลิ่นหอมของควันอ่อนๆ นำเสิร์ฟพร้อมกับขนุนแห้งและกล้วยตาก แก้วนี้บาริสตาแนะนำให้รับประทานกับเมนูสังขยาอัญชันขนมปังนึ่ง ที่ให้ความหอมตลบอบอวลในปาก เรียกว่า ‘ดื่มด่ำ’ ความเป็นไทยแบบรับประทานกันได้เต็มๆ คำ
Trio Cold Brew (120 บาท) เครื่องดื่มโคลด์บรูว์สามเกลอที่ได้ชื่อมาจากการผสมผสานกันของกาแฟ ชา และช็อกโกแลต หน้าตาสะสวยเรียงตัวเป็นชั้นแยก แก้วนี้คล้ายกับการจิบกาแฟม็อคคา และเช่นกันกับแก้วอื่นๆ ที่แลดูเหมือนจะหวานปรี๊ดจนคนไม่กินหวานต้องเบือนหน้าหนี แต่กลับไม่หวานดังคาด ทั้งยังให้รสนุ่มละมุนจากนม สนุกตรงที่สามารถละเลียดทั้งแบบคนและไม่คนได้ บาริสตาแนะว่าให้ดื่มคู่กับขนมครกซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ตัดรสนมด้วยวัตถุดิบอย่างกุ้ง ข้าวโพด หรือเผือก ฯลฯ
ส่วนใครที่อยากจิบอะไรที่ร้อนแรง มีดีกรีขึ้นมาอีกสักหน่อย แนะให้ลองเครื่องดื่มจากไอเดียของร้านที่ขึ้นชื่อว่าซีเรียสเรื่องค็อกเทลย่าง Vesper ลองชิม Arom-Dee (320 บาท) ที่จิบแล้วอารมณ์ดี เพราะทั้งหอมกำลังดี ทั้งอร่อย โดยใช้เหล้าหวานอินฟิวส์กับดอกจำปี ใส่โรสเลมอนเนด และแชมเปญ ให้ความหอม หวานอ่อนๆ และสดชื่น จิบขณะลมเย็นๆ พัดผ่านผิวหน้าตอนชมวิวยามเย็น ชวนให้รู้สึกดีสมชื่อ
นานแล้วที่เรามองหามุมนั่งเล่นมาหลบโลกทั้งใบเพื่อกินลมชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังไม่มีที่ไหนถูกใจเท่าที่นี่ เพราะนอกจากวิวสวยแบบมีอารยะอย่างไทยแล้ว ยังได้ลิ้มรสอาหารที่เป็นมากกว่าความบังเอิญอร่อย มีเรื่องราวเบื้องหลัง ทั้งยังเคล้าเครื่องดื่มรสดีที่ทำให้อยากกลับไปอีกไวๆ แล้วการไปกินข้าวริมน้ำเจ้าพระยาครั้งหน้าของคุณจะเปลี่ยนไป
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30-22.30 น.
Address: 392/25-26 ถนนมหาราช สุดซอยเพ็ญพัฒน์ 1 ท่าเตียน กรุงเทพมหานคร
Budget: เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 40 บาท อาหารเริ่มต้นที่ 120 บาท
Contact: 0 2015 4224
Page: www.facebook.com/supannigaeatingroomxrootscoffee
Website: www.supannigaeatingroom.com
Map: