วันนี้ (6 สิงหาคม) ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. เพื่อเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง และสนับสนุน การรับมืออุทกภัย
ศุภมาสกล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พบว่าตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และคาดว่าจะมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคม กระทรวง อว. จึงได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยมอบนโยบายสำคัญ 6 เรื่อง ได้แก่
- มอบหมายให้ สสน. เป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการติดตามและแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้กับประชาชน โดยให้วิเคราะห์ข้อมูลและประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมการรับมืออุทกภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
- สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยส่วนหน้าร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดย สสน. จะปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น และ สทนช. นำความรู้และเทคโนโลยีด้านการจัดการน้ำมาใช้แก้ไขปัญหาอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ประกอบด้วยรถ Mobile War Room หน่วยวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำเคลื่อนที่, สถานีโทรมาตรตรวจวัดสภาพอากาศและระดับน้ำอัตโนมัติ, การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศในการสำรวจภูมิประเทศ เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่, ระบบติดตามและคาดการณ์สถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง และแอปพลิเคชัน ThaiWater รายงานสถานการณ์น้ำ
- ให้ศูนย์ปฏิบัติการผู้พันวิทย์ ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วของ อว. เข้ามามีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมและรับมือสถานการณ์อุทกภัย โดยจัดทีมลงพื้นที่ เพื่อให้ความรู้ แจ้งเตือนสถานการณ์ และให้คำแนะนำ แก่ประชาชนในการเตรียมตัวรับมืออุทกภัย รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม เพื่อวางแผนดำเนินการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ
- ริเริ่มโมเดล อว. แจ้งภัยน้ำ โดยประสานงานกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ให้รับข้อมูลสถานการณ์น้ำจาก สสน. และสื่อสารแจ้งเตือนภัยจากภาควิชาการสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งสนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง รวมถึงให้ความรู้และช่วยเหลือชุมชนโดยรอบ
- ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่นำความเชี่ยวชาญทางวิชาการในสาขาที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับจังหวัดในการวางแผนรับมืออุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย และให้มหาวิทยาลัยจัดตั้งศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจ เพื่อรับมือสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งใช้พื้นที่และทรัพยากรของมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวหากจำเป็น
- มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในกระทรวง อว. สนับสนุนทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความอุ่นใจให้กับประชาชนในทุกสถานการณ์
“กระทรวง อว. พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และทันต่อสถานการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคน” ศุภมาสกล่าว