กระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นได้เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า เมื่อปี 2022 อัตราการฆ่าตัวตายของเด็กนักเรียนพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 512 คน สะท้อนให้เห็นถึงความเครียดสะสมในระบบการศึกษาญี่ปุ่นที่แข่งขันกันหนักไม่แพ้โลกการทำงานของคนวัยผู้ใหญ่
รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขระบุเพิ่มเติมว่า สาเหตุของการฆ่าตัวตายในกลุ่มผู้ที่มีอายุไม่เกิน 19 ปี ซึ่งรวมถึงเด็กที่อยู่ในระบบการศึกษานั้นมาจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะความวิตกกังวลจากผลการเรียนที่ตกต่ำ โอกาสทางอาชีพในอนาคตที่ย่ำแย่ และความกดดันที่ต้องสอบเข้าโรงเรียนและมหาวิทยาลัยตามที่ฝัน
ในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นนักเรียนชั้นประถม 17 คน มัธยมต้น 143 คน และมัธยมปลาย 352 คน โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าสัดส่วนการฆ่าตัวตายของเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่เป็นเพศชายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือเพิ่มขึ้น 38 คน แตะที่ 207 คนในปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขของปี 2022 นับว่าสูงสุดตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นเริ่มเก็บข้อมูลมาในปี 1980
หากแบ่งตามช่วงเวลาแล้ว อัตราการฆ่าตัวตายจะพุ่งสูงสุดที่เดือนมิถุนายน หรือ 60 คน ตามมาด้วยเดือนกันยายน 57 คน และเดือนมีนาคม 47 คน โดยในเดือนมีนาคมนั้นจะเป็นเดือนที่สิ้นสุดภาคเรียนของญี่ปุ่น ทำให้นักเรียนจะมีความกังวลเกี่ยวกับผลการเรียนและอาชีพในอนาคตของตนเองมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวปัญหาดังกล่าว ด้วยเหตุนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (28 กุมภาพันธ์) จึงได้มีการออกประกาศไปยังคณะกรรมการการศึกษาทั่วประเทศ โดยเรียกร้องให้ทางโรงเรียนให้คำแนะนำด้านอาชีพอย่างเหมาะสม และคอยสังเกตว่ามีนักเรียนที่แสดงอาการเครียดสูงผิดปกติหรือไม่ และขอให้โรงเรียนมัธยมของรัฐตอบแบบสำรวจ เพื่อหาวิธีป้องกันการฆ่าตัวตายและการรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้อย่างเหมาะสม
แฟ้มภาพ: KPG-Payless via Shutterstock
อ้างอิง: