วันนี้ (12 พฤษภาคม) สุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร บขส. และเจ้าของบริษัท เชิดชัยทัวร์ จำกัด เดินทางเข้ามายื่นหนังสือต่อ จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอขึ้นราคาโดยสาร
สุจินดากล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมายื่นคำร้องขอขึ้นค่าโดยสาร 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร, ขอลดค่าดำเนินการต่าง ๆ เช่น ค่าประกันภัย และค่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือมีมาตรการช่วยเหลือชาวรถร่วม บขส. ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะทุกวันนี้กลุ่มรถโดยสารร่วม บขส. ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้น 32 บาทต่อลิตร ทั้งยังมีค่าใช่จ่ายอื่นๆ อีก
ส่วนการดำเนินการในวันนี้จะเข้ามาพูดคุยว่า ทางขนส่งฯ จะช่วยอะไรได้บ้าง หากไม่ได้ข้อสรุปก็จะกลับไปคุยกับเพื่อนๆ ในกิจการว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ
ด้าน พิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่มีมาตรการในการช่วยเหลือใดๆ คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลอาจจะพุ่งทะยานไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับโครงสร้างขั้นบันไดของอัตราค่าโดยสารที่ ขบ. ประกาศไว้ เมื่อน้ำมันดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 1.12 บาท จะต้องปรับอัตรค่าโดยสารขึ้น 1 สตางค์ต่อกิโลเมตรนั้น หมายความว่ากรมการขนส่งทางบกโดยคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ต้องพิจารณาใช้ตารางอัตราค่าโดยสารขึ้นอีกประมาณ 10-15 สตางค์ต่อกิโลเมตร
และการมายื่นข้อเสนอครั้งนี้ ยืนยันไม่ใช่การเรียกร้องให้มีการปรับค่าโดยสารแต่อย่างใด เพียงขอให้ ขบ. ใช้อัตราค่าโดยสารตามโครงสร้างต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลตามที่เคยประกาศไว้เท่านั้น โดยให้ข้อมูลด้วยว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2549 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี เทียบเคียงอัตราคำโดยสารค่าโดยสารโดยรวมแล้วกลับลดลง 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร ทั้งๆ ที่องค์ประกอบของต้นทุนในการเดินรถมีการปรับเพิ่มสูงขึ้นตลอดมา
ต่อมาสุจินดาได้เปิดเผยผลการประชุมร่วมกับจิรุตม์ ในการหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถทัวร์ ว่าเราจะขอขึ้นราคาเพราะน้ำมันขึ้น แต่ทุกอย่างต้องทำตามกรอบและขั้นตอน จิรุตม์ต้องไปปรึกษาหลายหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการกรมขนส่งฯ และกระทรวงคมนาคม รวมทั้งต้องหาวิธีอื่นเพื่อเป็นทางออก แต่ถ้าหากไม่ได้ขึ้นราคาก็ต้องลดค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าประกันภัย และค่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่มีค่าใช้จ่ายสูง การประชุมวันนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมขนส่งฯ อย่างเต็มที่
ส่วนกรณีการขายกิจการเชิดชัยทัวร์นั้น สุจินดายืนยันขายแน่นอน หากขายไม่ได้ ภาครัฐต้องมาช่วย ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเก็บข้อมูลว่าสมาชิกได้รับความเดือดร้อนอะไรบ้าง กรอบเวลาไม่น่าจะเกิน 1 เดือน สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อกิจการจะต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนเป็นรายคัน หากมีสัญญากับ บขส. ต้องจ่ายคันละ 30,000 บาท หากไม่เคยประกอบกิจการจะต้องจ่ายคันละ 80,000 บาท แม้ตอนนี้จะยังขายไม่ได้ แต่ก็มีผู้สนใจมาสอบถามข้อมูลกับตน
