ทำความรู้จักโควิด ‘เอปซีลอน’ สายพันธุ์อเมริกา อันตรายแค่ไหน ต้านวัคซีน mRNA ได้จริงหรือไม่

หนึ่งในเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ที่กำลังเป็นที่จับตามอง คือสายพันธุ์ เอปซีลอน (Epsilon) ที่พบครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

โดยไวรัสสายพันธุ์นี้ แม้จะยังไม่พบว่ามีอันตรายร้ายแรงหากเทียบกับโควิดสายพันธุ์เดลตาหรืออัลฟา แต่ความน่าสนใจอยู่ที่งานวิจัยล่าสุดที่เผยแพร่ทางวารสาร Science เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไวรัสเกิดการกลายพันธุ์จนทำให้สามารถต้านทานวัคซีนชนิด mRNA ได้มากขึ้น

แล้วไวรัสสายพันธุ์นี้อันตรายมาก-น้อยแค่ไหน? จนถึงตอนนี้มีข้อมูลอะไรที่เรารู้บ้าง?

ไวรัสโควิดสายพันธุ์เอปซีลอน แยกเป็น 2 สายพันธุ์ย่อย คือ B.1.427 และ B.1.429 โดยสายพันธุ์ B.1.427 เกิดขึ้นจากการกลายพันธุ์ในตำแหน่งของโปรตีนหนามของไวรัส ที่เรียกว่า L452R ส่วนสายพันธุ์ B.1.429 นั้นมีการกลายพันธุ์ใน 5 ตำแหน่ง รวมถึงตำแหน่ง L452R ของโปรตีนหนาม

ผลการวิจัยชี้ว่า มีศักยภาพในการแพร่ระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์ปกติราว 18.6-24.2%

นับตั้งแต่ที่พบการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เอปซีลอนครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อช่วงเดือนมกราคม จนถึงปัจจุบันพบว่ามีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วในหลายรัฐ คิดเป็น 15% ของผู้ติดเชื้อโควิดทั่วสหรัฐฯ

ปัจจุบันพบการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เอปซีลอนแล้วใน 44 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปยุโรป เช่น ฝรั่งเศส ที่พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 7 ราย

ข้อมูลจากงานวิจัยที่ทำโดย แมทธิว แม็กคัลลัม นักชีวเคมีจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ซึ่งเผยแพร่ผ่านวารสาร Science เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ระบุว่าไวรัสสายพันธุ์เอปซีลอนเกิดการกลายพันธุ์บริเวณโปรตีนหนามของไวรัสอีก 3 ตำแหน่ง คือ S13I, W152C และ L452R ทำให้ต้านทานวัคซีนชนิด mRNA อย่าง Pfizer และ Moderna ได้ดีขึ้น

โดยผลวิเคราะห์พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งสองตัวลดลง 2-3.5 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโควิดสายพันธุ์อื่น

เดิมที CDC สหรัฐฯ จำแนกประเภทของไวรัสโควิดสายพันธุ์เอปซีลอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern) ก่อนปรับลดมาเป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง (Variant of Interest) เนื่องจากสัดส่วนในการแพร่ระบาดทั่วประเทศที่ลดลง เช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่จำแนกไวรัสสายพันธุ์นี้อยู่ในประเภทสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: