วันนี้ (29 มิถุนายน) ที่ชุมนุม คปท. สะพานชมัยมรุเชฐ พิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. แถลงข่าวหลังชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ (28 มิถุนายน) และชี้แนวทางการยกระดับการชุมนุมในสัปดาห์หน้าว่าภาพรวมของการชุมนุมวานนี้มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้งจากต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ ที่มาร่วมแสดงพลังเพื่อยืนหยัดจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชนทั่วประเทศ การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีฝนตกลงมา แต่ทุกคนไม่ถอย แสดงให้เห็นถึงพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่มุ่งมั่นจะรักษาอธิปไตยของชาติ โดยข้อเรียกร้องหลักทั้ง 3 ข้อ
- ให้นายกรัฐมนตรีลาออก
- ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว
- การแสดงพลังของมวลชนเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย
พิชิตยังชี้แจงถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าผู้ชุมนุมหรือแกนนำบางคนเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหาร โดยระบุว่า วันนี้รู้สึกแปลกใจที่ทั้งพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกลับประสานเสียงกันในการกล่าวหาประชาชนผู้ร่วมชุมนุม ทั้งที่หน้าที่ของฝ่ายค้านควรเป็นการตรวจสอบรัฐบาล เช่น การเรียกร้องให้คุณแพทองธาร แสดงความรับผิดชอบและลาออก แต่กลับมาตรวจสอบประชาชนแทน
ขณะเดียวกันแกนนำกลุ่ม ‘คณะรวมพลังแผ่นดินฯ’ ได้แก่ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, จตุพร พรหมพันธุ์ และ นิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) ก็ยืนยันจุดยืนร่วมกันว่ากลุ่มไม่เคยเรียกร้องให้เกิดรัฐประหารจากกองทัพ แต่สนับสนุนให้กองทัพทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดของตน และขอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที
พิชิตกล่าวว่า “พรรคประชาชนไม่ต้องกลัวธงชาติไทยหรอกครับ พรรคร่วมรัฐบาล และแม้แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่ต้องกลัวเสียงของประชาชน นี่เป็นแค่ยกแรกเท่านั้น นับจากนี้จะเข้มข้นขึ้น ไม่ใช่แค่เรียกร้องให้ลาออก แต่เราพร้อมยกระดับเพื่อไล่รัฐบาลทั้งคณะ พื้นที่การชุมนุมจะไม่ใช่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอีกต่อไป แต่จะเคลื่อนประชิดทำเนียบรัฐบาล”
สำหรับกรณีที่มีข้อสังเกตว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจไม่หยุดที่การให้นายกฯ ลาออก พิชิตชี้แจงว่า แม้จะมีการลาออก พรรคเพื่อไทยอาจเสนอชัยเกษม นิติสิริให้เป็นนายกฯ คนใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือทิศทางของรัฐบาลชุดใหม่ ว่าจะเดินหน้าในการปกป้องอธิปไตยหรือไม่ และจะยุตินโยบายที่ประชาชนคัดค้าน เช่น เรื่อง กาสิโน หรือไม่
พิชิตกล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะอยู่ระหว่างการทูลเกล้าแล้ว แต่ก็ยังมีเวลาให้พรรคร่วมรัฐบาลสามารถถอนตัวได้ โดยสัปดาห์หน้าทางกลุ่มจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา หลังจากก่อนหน้านี้ได้ยื่นไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติมาแล้ว
ขณะเดียวกันในวันอังคารนี้ที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะมีการประชุมชุดใหญ่ เพื่อประเมินสถานการณ์ รวมถึงติดตามท่าทีจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว
พิชิตยังกล่าวว่า การชุมนุมวานนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่และนายทหารหลายท่าน ทั้งในและนอกราชการ ให้ความสนใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อพรรคการเมืองใด พรรคหนึ่ง โดยเป็นการรวมพลังจากทุกกลุ่มสี
“ยังยืนยันกับแถลงการณ์รอบแรกของพวกเรา เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว นี่คือหัวใจหลักของการชุมนุม อย่ากล่าวหาผู้ชุมนุม อย่าดูถูกน้ำใจของผู้ชุมนุมที่รักประเทศ ด้วยการกล่าวหาว่าเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เรียกร้องรัฐประหาร ขอยืนยัน-นั่งยันว่าข้อเรียกร้องของพวกเราไม่เคยมีการเรียกร้องให้เกิดรัฐประหารใดๆ ทั้งสิ้น”