สรวิศ ไกรฤกษ์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อัปเดตภาพรวมตลาดหุ้น IPO และ แนวโน้มการระดมทุนในปี 2569 ในงาน SET Zooom in: เจาะลึกกระบวนการ และปัจจัยที่มีผลต่อราคาหุ้น IPO
นอกจากภาวะตลาด IPO ในประเทศที่ซบเซาแล้ว ตลาดหุ้นไทยยังต้องเผชิญ กับคู่แข่งจากตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่จงใจเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย เพื่อจูงใจบริษัทเอกชน หรือบริษัทข้ามชาติให้หันไประดมทุนในตลาดอื่นแทน
สรวิศ ยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมามีหลายบริษัทเลือกไประดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลท.และกลต.มีการปรึกษาเพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกันมาตลอด โดยจะมีการปรับปรุงกระบวนการ IPO ลดขั้นตอนให้น้อยลง แต่ไม่หย่อนเกณฑ์เชิงคุณภาพ
โดยจะใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารน้อยลง เพื่อให้สามารถเปิดเผยข้อมูลบางส่วนมากขึ้น (Disclosure Check) เพื่อจูงใจบริษัทให้เข้ามาจดทะเบียน และแข่งขันกับตลาดอื่นได้มากขึ้น
ด้านทินพันธุ์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ แม้จะโดนทาบทามให้ไประดมทุนตลาดอื่น แต่ยังเลือกระดมทุนในไทย เพราะเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยระยะยาว
“ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คือการจีบที่เข้มข้นของตลาดหลักทรัพย์เพื่อนบ้าน ซึ่งลูกค้าเดิมยังยืนยันที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย อยากดีลกับหน่วยงานกำกับไทย แต่แค่ชะลอเวลาเข้า IPO ไปก่อน” ทินพันธุ์ กล่าว
ตลาดหุ้นไทยปันผลสูง แต่ไม่โต
สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัดกล่าวว่า การลงทุนหุ้น IPO นักลงทุนคาดหวังผลตอบแทนใน 2 ส่วน ได้แก่
1. อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล
2. การเติบโตของบริษัทจดทะเบียน
ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียนไทย อยู่ในระดับสูง แต่สิ่งที่นักลงทุนยังกังวลคือ ศักยภาพการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งได้รับแรงกดดันจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค GDP โตต่ำแค่ระดับ 1.5-2%
ดังนั้นโจทย์ใหญ่ที่ต้องกลับไปทบทวน คือ ตลาดทุนจะทำอย่างไรให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้น เราต้องไล่เรียงไปตั้งแต่การออม การลงทุนผ่านกองทุนรวม LTF, RMF หลายๆ ตัวสภาพคล่องหายไป ซึ่งหลายสิ่งควบคุมไม่ได้ แต่เวลาที่กระแสเงินทุนไหลกลับมา มักจะกลับมาด้วยปัจจัยดอกเบี้ย และปัจจัยจากประเทศรอบข้าง แม้เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส ทั้งนี้บริษัทในไทยมีอัตราเงินปันผล อยู่ในระดับที่น่าดึงดูด โดยหุ้นบางตัวมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล เติบโตเกือบสองหลัก (Double Digit) ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยหุ้นกู้ นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางการลงทุนหลายด้าน เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสภาพคล่องในตลาดหุ้นไทย เป็นผลมาจากนักลงทุนบางส่วนพักเงิน
รอจังหวะ เพราะบรรยากาศการลงทุนยังไม่ฟื้น
“หลายๆ เคสที่ได้มีการพูดคุย นักลงทุนมองว่าหุ้นไทย ถ้าซื้ออาทิตย์หน้า ราคาจะถูกลงอีก
แต่เมื่อไรที่รู้สึกว่า อาทิตย์หน้า ราคาหุ้นมีโอกาสแพงขึ้น นักลงทุนจะรีบเข้าซื้อทันที ทำให้บรรยากาศตลาดรวมๆ อยู่ในสถานะ wait and see” สมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ความมั่นคงในเชิงเศรษฐกิจและนโยบายในประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ IPO การระดมทุนไม่ใช่ทำได้ในทันที แต่จะต้องมีการเตรียมความพร้อม ภาครัฐจึงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการช่วยอำนวยความสะดวกขั้นตอนการขออนุญาตลงทุน
ที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานราชการอื่นๆ ซึ่งต้องทำให้เป็นระบบรวมศูนย์ ลดความซ้ำซ้อนที่บริษัทจะต้องติดต่อหลายหน่วยงาน เพื่อขออนุญาตทำธุรกิจเดียว
มั่นใจเลือกตั้ง 2569 ไม่กระทบ IPO
สำหรับผลกระทบการเลือกตั้งต่อแนวโน้มตลาด IPO ปี 2569 สรวิศ มองว่า ข่าวการยุบสภา ตลาดรับรู้มาสักพักแล้วว่าจะเกิดขึ้น แม้ล่าสุดรัฐบาลอนุทินจะประกาศยุบสภาเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ ตลาดก็คาดการณ์ไว้แล้ว
ทั้งนี้ ระยะเวลาการเข้า IPO เป็น seasonal เหมือนเดิมทุกปี คือ บริษัทที่สนใจระดมทุนจะรอปิดงบปี สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ และอัปเดตข้อมูลเพื่อยื่นไฟลิ่ง ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งส่วนใหญ่มักยื่นก่อนวันหยุดสงกรานต์ ดังนั้นสำหรับบริษัทที่มีแผนเข้าระดมทุนอยู่แล้ว ไม่ได้กระทบอะไร เพราะกระบวนการพิจารณาจะต้องบวกเวลาขั้นต่ำอีก 6 เดือน กว่าจะได้วันเสนอขายก็เป็นช่วงสิ้นปี หรืออาจดีเลย์ได้ถึง 1 ปี
สำหรับปีหน้า ปัจจัยท้าทายต่อตลาด IPO ยังมีอยู่ แต่ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ก็มีลูกค้าใน pipeline ของตัวเอง ทั้งบริษัทที่เตรียมเสนอไฟลิ่งและบริษัทที่กำลังเตรียมตัว ปัจจุบัน มีบริษัทประมาณ 5-6 บริษัทที่ยื่นไฟลิ่งแล้วรออนุมัติคำขอเสนอขาย
อย่างไรก็ตาม หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 2 รอบในปี 2569 มีความเป็นไปได้ว่าเงินทุนจะไหลกลับเข้ามาในช่วงกลางปี ถึงปลายปี ซึ่งจะกระตุ้นกิจกรรมหุ้น IPO ให้กลับมาคึกคัก
นอกจากนี้ ต้องรอดูนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะมีมาตรการสนับสนุน incentive
กองทุนลดหย่อนภาษี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถาบันหรือไม่ หากมีปัจจัยสนับสนุนครบทั้ง 2 ปัจจัย คาดว่าจะช่วยคลี่คลายปัญหา IPO ในอดีตได้
สำหรับภาพรวม IPO ปีนี้ ในช่วงที่เหลือของปีจะมีหุ้นใหม่ใน mai เข้าจดทะเบียนเพิ่มเติมอีก 2 บริษัท รวมมีบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 19 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวมประมาณ 13,000 ล้านบาท


