หลังจากที่หนังสือ Fire and Fury: Inside the Trump White House ของนักข่าวชื่อดังอย่างไมเคิล วูล์ฟ (Michael Wolff) ถูกเผยแพร่ออกไป ชื่อของ สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) อดีตกุนซือและที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์คนสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็กลับมาจับจองพื้นที่สื่ออีกครั้ง นับตั้งแต่ที่เขาตกจากเก้าอี้นี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สตีฟคือหนึ่งในบรรดาอดีตคนสนิทที่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวการทำงานของทีมงานทรัมป์ในช่วงปีแรก นับตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง โดยเขาได้เผยถึงข้อมูลสำคัญที่ทีมงานของทรัมป์ พบปะพูดคุยกับรัสเซียในช่วงหาเสียงเลือกตั้งโค้งสุดท้ายที่ตึกทรัมป์ ทาวเวอร์ใจกลางมหานครนิวยอร์ก ทำให้หลายฝ่ายตีความกันว่า หนึ่งในทีมงานระดับสูงอาจจะมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์รวมอยู่ด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ม.ค.) สตีฟออกมายืนยันว่า ข้อความที่เกี่ยวข้องกับ ‘การเป็นกบฏ’ หรือ ‘การขายชาติ’ ในหนังสือเล่มนั้น ตนไม่ได้สื่อถึงลูกชายของนายทรัมป์โดยตรง แต่ตนหมายถึงอดีตผู้ช่วยคนอื่น อย่างนายพอล มานาฟอร์ต (Paul Manafort) ที่ก็อยู่ในที่ประชุมลับครั้งนั้นด้วย
เว็บไซต์ของสำนักข่าว Breitbart News Network เผยว่า สตีฟประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของสำนักข่าวแล้ว “ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ Breitbart News Network ประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนกลายเป็นสำนักข่าวระดับเวิร์ลคลาส” ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุการลาออก แต่ทีมงานทุกคนคาดว่า นี่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญของสตีฟและทุกคนเคารพการตัดสินใจนี้
ทางด้านแลร์รี โซโลฟ (Larry Solov) ซีอีโอของ Breitbart News เผยว่า “สตีฟตัดสินใจลาออกจาก Breitbart News Network แล้ว สตีฟคือส่วนสำคัญของสำนักข่าวนี้ และพวกเราจะระลึกถึงความอุทิศตนของเขาตลอดไป”
อ้างอิง:
