นับเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์ nationalgeographic.com เผยแพร่วิดีโอหมีขาวขั้วโลกตัวหนึ่งที่มีสภาพผอมโซและกำลังคืบคลานไปคุ้ยเขี่ยกองขยะเพื่อหาอาหารกิน สะท้อนถึงความเลวร้ายอย่างสุดขั้วของสภาพภูมิอากาศโลกที่ทำให้พวกมันต้องเผชิญหน้ากับความตายอย่างช้าๆ
พอล นิกเคลน พร้อมด้วยทีมงานช่างภาพ เดินทางเข้าสู่เกาะแบฟฟิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดาเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนพบเข้ากับหมีขั้วโลกสภาพซีดเซียวที่หยุดนิ่งจนเขาคาดว่ามันได้เสียชีวิตไปแล้ว
นอกจากเขาจะมองผิดไปแล้ว หมีตัวนี้ยังพยายามดิ้นรนหาทางรอดให้ชีวิตด้วยการพยายามค่อยๆ เคลื่อนตัวสู่กองขยะที่มนุษย์ทิ้งเอาไว้เพื่อคุ้ยหาอาหารกิน
แม้ในห้วงเวลาที่พวกเขาบันทึกภาพ หมีขั้วโลกที่อยู่ในภาพจะยังไม่ตายลง แต่ช่างภาพเหล่านี้ปักใจเชื่อว่ามันจะต้องเสียชีวิตลงในไม่ช้า
นิกเคลนในวัย 49 ปี แสดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เขาได้พบว่า “นี่แหละคือความอดอยาก… ความตายที่เชื่องช้าและทรมาน”
“พวกเราต่างพากันร้องไห้ตอนบันทึกภาพหมีใกล้ตายตัวนี้” คริสตินา มิตเตอร์ไมเออร์ ผู้ช่วยในทีมกล่าว “นี่คือโฉมหน้าของสภาพอากาศอันแปรปรวน”
ด้านผู้เชี่ยวชาญและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมองว่า การช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้จำเป็นต้องลดระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดโลกร้อน เช่นเดียวกับที่หน่วยงานอนุรักษ์สัตว์ป่าในสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อการมีชีวิตรอดของเผ่าพันธุ์หมีขั้วโลก
ชีวิตหมีขั้วโลกนั้นขึ้นอยู่กับสภาพธารน้ำแข็งที่พวกมันต้องใช้ในการล่าแมวน้ำเป็นอาหาร ท่ามกลางสภาพอากาศโลกที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ นำมาสู่การที่น้ำแข็งละลายเร็วกว่าปกติ จนทำให้ช่วงเวลาหาอาหารของหมีขั้วโลกหดสั้นลงไปด้วย
ขณะเดียวกัน บรรดานักชีววิทยาต่างเห็นด้วยว่าหิมะชั้นบนเริ่มละลายมากขึ้น และย่อมส่งผลกระทบต่อประชากรหมีขั้วโลก ซึ่งปัจจุบันมีราว 26,000 ตัวทั่วโลก โดยยังคาดการณ์ว่าสัดส่วนนี้จะลดลง 30% ภายในปี 2050 ด้วย
ทำไมไม่ช่วย
หลังมีการแพร่ภาพออกไป ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายรายได้ออกมาแสดงความรู้สึกเสียใจและสงสารต่อหมีขั้วโลกในวิดีโอ แต่บางรายก็วิจารณ์ทีมงานที่ไม่ยอมยื่นมือช่วยหมีตัวดังกล่าว
นิกเคลนเผยความรู้สึกว่า “คนต่างพากันคิดว่าพวกเราเย็นชา แต่แน่นอนว่าพวกเรารู้สึกไม่ดีเลย” อย่างไรก็ตาม การให้อาหารหมีขั้วโลกนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ความทรมานของมันอยู่นานขึ้น แต่ยังผิดกฎหมายในประเทศแคนาดาด้วย
ช่างภาพรายนี้เล่าว่า หมีขาวตัวนี้ไม่ได้รับการตั้งชื่อจากทีมงาน แต่ทุกคนต่างพากันเรียกมันว่า ‘หมีขั้วโลกที่กำลังจะตายตัวนั้น’
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ออกมาคัดค้านแนวคิดที่มองว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากภาวะโลกร้อน โดยผู้เชี่ยวชาญหมีขั้วโลกอย่างแอนดริว เดโรเชอร์ มองว่า หมีเพศชายที่ปรากฏในวิดีโอมีอาการทางสุขภาพถดถอย และอาการอดอยากไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนนัก
เช่นเดียวกับเจฟฟ์ ฮิกดอน นักชีววิทยาสัตว์ป่าอาร์กติก ที่ชี้ว่าหมีขั้วโลกตัวนี้อาจเจ็บปวดจากมะเร็งกระดูก พร้อมกล่าวอีกว่า “หมีตัวนั้นมันกำลังโหยหาอาหาร แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ เพราะว่าน้ำแข็งหายไป มันน่าจะล่าแมวน้ำไม่ได้แล้วด้วย
“มันมีโอกาสมากกว่าที่หมีกำลังอดอยากเนื่องจากปัญหาสุขภาพ” เขากล่าว
อ้างอิง: