×

นักวิเคราะห์ชี้กองทุนใหม่ SSF ดึงเงินเข้าตลาดหุ้นไทยน้อยกว่า LTF ถึง 50%

09.12.2019
  • LOADING...
กองทุนใหม่ SSF

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (บล.บัวหลวง) กล่าวว่า

 

หลังกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จะสามารถใช้สิทธิการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ถึงปีภาษี 2562 และในปี 2563 รัฐบาลออกกองทุนรวมเพื่อการออม หรือกองทุน SSF (Super Savings Fund) ให้ใช้สิทธิการลดหย่อนภาษีฯ คาดว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มนักออมเงินรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน เพราะสามารถซื้อกองทุนรวมนี้เพื่อลดหย่อนภาษีในสัดส่วนที่มากขึ้น 

 

ส่วนปี 2563 คาดว่ากองทุน SSF จะสร้างเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยราว 20,000 ล้านบาทต่อปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเม็ดเงินลงทุน LTF ที่เข้าสู่ตลาดหุ้นที่อยู่ 40,000 ล้านบาทต่อปี สาเหตุเพราะเงินลงทุนใหม่ที่เข้ามาอาจไม่ได้เข้ามาที่หุ้นทั้งหมด เพราะกองทุนใหม่ SSF เปิดให้ลงทุนหลักทรัพย์ทุกประเภทไม่ใช่แค่หุ้น 

 

ทั้งนี้ ณ เดือนตุลาคม  2562 มูลค่ากองทุนรวม LTF อยู่ที่ 387,000 ล้านบาท ส่วนกองทุนรวม RMF อยู่ที่ 288,278 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตลาดจับตามองคือ การขายออกของนักลงทุนที่ถือกองทุนรวม LTF แบ่งเป็นนักลงทุนที่ซื้อ LTF ที่ซื้อก่อนปี 2559 จะครบกำหนด 5 ปีปฏิทินในเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา ขณะที่ LTF ที่ซื้อหลังปี 2559 จะครบกำหนด 7 ปีปฏิทินเดือนมกราคม 2565 นี้ ซึ่งยังประเมินเม็ดเงินไม่ได้ชัดเจน   

 

RMF

 

สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (บล.ไทยพาณิชย์) กล่าวว่า เงื่อนไขกองทุนใหม่ SSF ที่แตกต่างจาก LTF ทั้งวงเงินที่สามารถซื้อกองทุน และระยะเวลาการถือกองทุนที่ยาวขึ้นอาจเป็นอุปสรรคต่อกลุ่มนักลงทุนที่อายุ 45 ปีขึ้นไป เช่น กองทุน SSF ที่ต้องถือกองทุนยาว 10 ปี อาจทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้หันไปลงทุน RMF แทน

 

นอกจากนี้วงเงินในการซื้อ LTF ยังต้องซื้อรวมกับ RMF และกองทุนอื่นๆ รวมไม่เกิน 500,000 บาท 

 

อย่างไรก็ตาม มองว่าเทรนด์การออกกองทุน SSF ในปีหน้า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) จะยังมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย เพราะผลตอบแทนการลงทุนหุ้นไทยยังมีทิศทางดีกว่าประเทศอื่นๆ แค่มองว่าอนาคตการลงทุนหุ้นไทยควรมองในระยะยาว 10 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันราคาหุ้นไทยยังปรับตัวลดลงจากก่อนหน้าทำให้มูลค่าหุ้นไทยยังไม่แพงกว่าประเทศอื่นๆ ในตลาดเกิดใหม่

 

วิกิจ กล่าวว่า ปี 2562 นี้มองว่าแม้ดัชนีหุ้นไทยจะปรับลดลง แต่หุ้นบางกลุ่มมีผลตอบแทนชนะตลาด ขณะเดียวกันมีกลุ่มหุ้นที่ราคาลดลง และหากเศรษฐกิจมีสัญญาณดีขึ้นจะส่งผลให้หุ้นกลุ่มนี้กลับมาเติบโต เช่น ปิโตรเคมี โรงกลั่น พลังงาน และธนาคารพาณิชย์ โดยปี 2563 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องได้ที่

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising