จากผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สร้างชื่อให้กับ ‘ศรีจันทร์’ ตอนนี้กำลังเดินเรือบนน่านน้ำธุรกิจใหม่เข้าสู่ ‘สุขภาพและความงาม’ โดยเผยว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะเป็นสายผลิตภัณฑ์แรกของกิจการใหม่นี้
รวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด อธิบายถึงวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังการขยายตัวครั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพในวงกว้าง โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายและกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพ
การเปลี่ยนแปลงไปสู่ธุรกิจสุขภาพและความงามสอดคล้องกับกระแสสังคมโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในด้านสุขภาพส่วนบุคคลและความเป็นอยู่ที่ดี การเปลี่ยนแปลงนี้มองเห็นได้ในทุกกลุ่มอายุ รวมถึงสังคมสูงวัยและคนรุ่นมิลเลนเนียลที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น และเต็มใจที่จะลงทุนกับเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เทรนด์เครื่องสำอางเปลี่ยน-แข่งขันสูง ศรีจันทร์นำแบรนด์ sasi ดึง BT21 ออกโปรดักต์ใหม่กระตุ้นยอดขายปลายปี ย้ำปี 66 ธุรกิจตั้งรับความเสี่ยงรอบด้าน
- ‘ศรีจันทร์’ รีเฟรชแบรนด์ลูก ‘Sasi’ จากเครื่องสำอางสู่ Beauty and Lifestyle Brand หวังลบภาพความขมุกขมัวให้ชัดเจนขึ้น
- ขอเวลาอีก 2 ปี L’Oréal อยากแซง Unilever ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดความงามมูลค่า 1.49 แสนล้านบาทของไทย
ศรีจันทร์จะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10% จากยอดขายของบริษัทในการลงทุนครั้งนี้ ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาทในช่วงแรกวางแผนที่จะใช้การจ้างผลิต ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกจากไลน์นี้ต้นปี 2567
ที่น่าสนใจคือ การที่ศรีจันทร์ก้าวเข้าสู่ธุรกิจสุขภาพและความงามไม่ใช่การออกจากธุรกิจดั้งเดิม เพราะต้นกำเนิดของบริษัทย้อนไปถึงอุตสาหกรรมยา ซึ่งยังคงสะท้อนอยู่ในชื่อแบรนด์ ดังนั้นการขยายเข้าสู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นความก้าวหน้าของแบรนด์ที่ต้องเติบโตต่อไป
การลงทุนในธุรกิจใหม่นี้ยังมีบทบาทสำคัญในแผนการบริหารความเสี่ยงของบริษัทอีกด้วย ศรีจันทร์ตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและฟื้นตัวได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ตามแผนธุรกิจในปี 2566 ศรีจันทร์ตั้งเป้าที่จะส่งเสริมแบรนด์เครื่องสำอางให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก โดยวางแผนดำเนินแคมเปญการตลาดอย่างเข้มข้น และเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่อย่างน้อย 3 คอลเล็กชันต่อปี กลยุทธ์นี้มุ่งตอบสนองกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยเดินทางกลับมาเที่ยวในไทย
ส่วนหนึ่งของเกมการตลาดคือ การเลือก ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก มารับหน้าที่พรีเซนเตอร์เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว และยังเปิดตัวพรีเซนเตอร์ชายคู่แรกคือ มาย ภาคภูมิ และ อาโป ณัฐวิญญ์ ซึ่งสะท้อนผ่านภาพลักษณ์ของแบรนด์ศรีจันทร์ที่ไม่จำกัดเฉพาะเพศหญิงอีกต่อไป และพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำแห่งวงการเครื่องสำอางไทย
ศรีจันทร์คาดการณ์รายได้ปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท นับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 730 ล้านบาทในปี 2565 และเพิ่มขึ้นจาก 530 ล้านบาทในปี 2564
ในแง่ของการกระจายธุรกิจ ศรีจันทร์ตั้งเป้าให้กลุ่มสุขภาพและความงามมีส่วนแบ่งรายได้ 30% ในขณะที่กลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะคิดเป็น 70%
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2568 ซึ่งเป็นแผนที่เดิมกำหนดไว้ในปี 2566 แต่ถูกเลื่อนออกไป