×

“เทหมดหน้าตักจริงๆ” เศรษฐาย้ำทำงานเต็มที่ เชื่อ 4 ปีข้างหน้าผลลัพธ์สะท้อนผลเลือกตั้ง ยืนยันเร่งแก้ รธน. ปราบยาเสพติด

โดย THE STANDARD TEAM
18.09.2023
  • LOADING...

วันนี้ (18 กันยายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเสวนางาน ‘Thairath Forum 2023’ ภายใต้หัวข้อ ‘Future Perfect เปิดมุมคิด พลิกอนาคต’ โดยมี สรกล อดุลยานนท์ หรือ หนุ่มเมืองจันท์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง เป็นผู้ดำเนินรายการ 

 

เศรษฐากล่าวถึงการทำงานในมิติการเมืองที่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนเลือกตั้งว่า เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ทางการเมืองพื้นฐาน เราต้องการ 376 เสียงในการเป็นรัฐบาลและโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เราก็ทำตามสัญญาว่าจะไปร่วมกับพรรคก้าวไกล แต่ไม่ผ่านการโหวตของ สว. ได้มาเพียง 324 เสียง ก่อนที่พรรคก้าวไกลส่งไม้ต่อมาให้พรรคเพื่อไทย

 

เศรษฐาถามกลับว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่จับมือกับพรรคอื่นจะได้ถึง 376 เสียงหรือไม่ หากจะจับมือกับพรรคก้าวไกลต่อไปก็ไม่ถึง 376 เสียงอยู่ดี จะคอยอีก 9-10 เดือนจน สว. หมดวาระ ประชาชน ค่าน้ำ ค่าไฟก็คอยไม่ได้อยู่ดี รวมถึงนโยบายพักหนี้เกษตรกร ฟรีวีซ่า ทุกเรื่องคอยไม่ได้ ขอให้ทุกคนตั้งต้นตรงนี้ก่อน ขอให้คิดเรื่องคณิตศาสตร์พื้นฐานก่อน ซึ่งเราก็มี 10 ล้านเสียงที่เลือกมาให้เราเป็นรัฐบาล และเราก็สามารถประสานกับพรรคการเมืองอื่นและตกลงกันได้ เรื่องนโยบาย เรื่องไหนที่เราไม่เอา ไม่สามารถผ่านการโหวตได้ก็ไม่แตะต้อง เป็นเรื่องที่ไม่ได้ขอความเห็นใจ แต่หากมองอย่างเข้าใจก็คือเรื่องพื้นฐาน

 

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ถือเป็นการลงของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารที่ผ่านมาอย่างสวยงาม หรือมีความชอบธรรมมากขึ้นหรือไม่นั้น เศรษฐาย้ำว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารอยู่แล้ว พรรคการเมืองที่เข้ามาร่วมรัฐบาลและมาจากรัฐบาลเดิมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารก็ลาออกไปแล้ว และเป็นการจัดตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ พร้อมย้ำว่า เป็นการตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ หลายคนอาจบอกว่าเป็นนายกฯ ส้มหล่น และนายกฯ ตระบัดสัตย์ ก็พูดกันไป แต่เชื่อว่าคนที่เข้าใจจริงๆ ก็เข้าใจในหลักคณิตศาสตร์ พร้อมย้ำว่า อยากให้มองเรื่องผลงาน เศรษฐกิจ สังคม ที่ให้คำมั่นไว้ว่าจะเดินต่อไปเพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศไม่ผิดหวัง

 

เศรษฐายังกล่าวถึงวลี “ขอให้อยู่กับโลกความเป็นจริง” จะทำให้ความฝันและความหวังของคนรุ่นใหม่หมดลงหรือไม่ว่า ความฝัน ความหวัง และแรงบันดาลใจ เป็นหน้าที่ เป็นภารกิจหลักของผู้นำที่แบกไว้ และต้องนำเสนอ ต้องแสดงให้เห็นในช่วง 4 ปีว่าจะต้องค่อยเป็นค่อยไป และในที่สุดจะทำให้ประชาชนมีความหวัง หากเขาไม่มีความหวัง ไม่มีแรงบันดาลใจ ก็จะสะท้อนจากคะแนนเสียงในอีก 4 ปี

 

ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยพูดไว้ว่า ในการประชุม ครม. นัดแรกจะมีการตั้ง สสร. เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ปรากฏว่ามติ ครม. ออกมาเพียงตั้งคณะกรรมการนั้น เศรษฐากล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวตามมติ ครม. เป็นการตั้งคณะทำงานเพื่อทำประชามติ ไม่ใช่ สสร. ซึ่งต้องทำประชามติถามประชาชนก่อนว่าจะมี สสร. ดำเนินการอย่างไร จะคัดเลือกจากภาคส่วนไหนบ้าง ซึ่งต้องทำงานร่วมกับสภา ไม่ใช่การดึงหรือไม่ให้ความสำคัญ แต่ใน ครม. นัดแรกได้ทำไปแล้ว แต่ยอมรับว่ายังให้สัญญาไม่ได้ว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี แต่ยืนยันว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการ 

 

เศรษฐายังกล่าวถึงการซื้อ-ขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจที่นำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันว่า รัฐบาลไม่ได้เน้นแค่ข้าราชการตำรวจเท่านั้น ซึ่งในการประชุม ครม. นัดแรกได้พูดคุยกับรัฐมนตรีถึงการไม่ยอมรับการซื้อ-ขายตำแหน่ง การโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม และการไม่ให้เกียรติกับข้าราชการ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ยอมรับไม่ได้ และต้องให้เกียรติข้าราชการที่มีผลงานดี เรื่องซื้อ-ขายตำแหน่งถือเป็นเรื่องคอร์รัปชันที่ร้ายแรง รัฐบาลนี้ไม่ยอมรับ รวมถึงได้เน้นย้ำไปกับผู้บริหารกระทรวงการคลังในเรื่องนี้เช่นกัน ยอมรับว่าการซื้อ-ขายตำแหน่งจะทำให้หมดไปนั้นยาก แต่จะพยายามทำให้เหลือน้อยที่สุด จนเกือบเป็นไปไม่ได้ รวมถึงเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่ต้องเร่งแก้ดำเนินการให้เหลือน้อยที่สุดเช่นกัน

 

ช่วงท้ายผู้ดำเนินรายการได้ถามว่า ทำไมเศรษฐาถึงไหว้สวย ซึ่งเศรษฐาบอกว่า คุณแม่ (ชดช้อย จูตระกูล) สอนมา เพราะมองว่าเรื่องการไหว้นั้นสำคัญ เป็นความประทับใจครั้งแรกที่ได้พบกัน ดังนั้น การที่เราจะทำอะไรต่อไป ถ้าเกิดเริ่มต้นที่ดี มีการทักทายที่เหมาะสม เชื่อว่าจะเป็นการให้เกียรติ ให้ความเคารพซึ่งกันละกันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน

 

ผู้ดำเนินรายการยังถามต่อว่า คุณแม่ได้สอนอะไรอีกบ้าง เศรษฐาบอกว่า ไม่พยายามทำตัวให้เป็นภาระใคร พยายามช่วยตัวเองให้ได้มากที่สุด ส่วนภายหลังที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คุณแม่ถามว่ารองนายกรัฐมนตรีเป็นใคร จะช่วยทำงานได้หรือไม่ ซึ่งก็ได้ให้ความเชื่อมั่นว่ารองนายกรัฐมนตรีทุกคนมีคุณภาพ ทำงานได้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังทำงานตลอดทั้ง 7 วันคุณแม่ก็คอยถามเสมอว่าเป็นอย่างไรบ้าง กลับบ้านเมื่อไร และก็จะได้เจอกันช่วงเช้า

 

ส่วนแนวคิดการนอนทำเนียบรัฐบาล เศรษฐายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะบ้านที่ตนอยู่ปัจจุบันมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก อาจทำให้เพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งจะได้ไม่ต้องเดินทาง ไม่เป็นภาระตำรวจติดตาม แต่ที่จะเป็นภาระจริงๆ ก็คงมีทีมเลขาฯ ตน 4-5 คนเท่านั้น ก่อนย้ำว่าตนทำงานเต็มที่ “เทหมดหน้าตักจริงๆ” 

 

ผู้ดำเนินรายการถามคำถามสุดท้าย โดยได้อ้างอิงถึงคำพูดของโค้ชสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลว่า อยากเขียนเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของตัวเอง ก่อนถามเศรษฐาว่า อยากเขียนเรื่องราวของตัวเองอย่างไร ในวันที่มีตำแหน่งและวันที่ลาจากตำแหน่ง เศรษฐาตอบทันทีว่า “ตนไม่อยากเขียนเรื่องตัวเอง อยากให้ประชาชนเป็นคนเขียน” อยากให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่มีการด้อยค่ากัน ร่วมพูดคุยกันได้อย่างเปิดเผย อยากให้สังคมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising