×

นายกฯ สั่งการด่วน! เพิ่มเครื่องบินอีก 4 ลำ พาคนไทยออกจากอิสราเอล หลังตัวเลขอพยพพุ่งสูง 5,000 คน ห่วงสถานการณ์เลวร้ายลง

โดย THE STANDARD TEAM
12.10.2023
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน

วันนี้ (11 ตุลาคม) เวลา 21.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ประเทศมาเลเซีย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลว่า ล่าสุดหลังคนไทยในอิสราเอลและพื้นที่ใกล้เคียงประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยกว่า 5,000 คน ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แย่ลงและเลวร้ายลงไป มีจรวดยิงกันตลอดเวลา 

 

นายกรัฐมนตรีระบุว่า เครื่องบินของไทยที่จะออกในวันพรุ่งนี้สำหรับคนไทย 15 คนนั้นยังไม่พร้อม เนื่องจากอีก 11 คนกำลังเดินทางเข้ามาที่สถานทูต ซึ่งขณะนี้มีแค่ 4 คนและได้รับบาดเจ็บ แต่อยู่ในสถานทูตและปลอดภัยแล้ว 

 

เศรษฐากล่าวว่า การจราจรในประเทศอิสราเอลถนนก็ปิดหลายสาย ดังนั้น ทางเดียวที่สามารถเดินทางได้ต้องอาศัยรถทหาร โดย พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ได้ประสานกองทัพอิสราเอลเพื่อขอให้ช่วยใช้รถลำเลียงคนเข้ามายังสถานทูต แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ขณะนี้สถานการณ์เลวร้ายลงไป ดังนั้น เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะอพยพคน 5,000 คนให้ได้ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด 

 

เศรษฐากล่าวว่า มีปัญหาอยู่ 2-3 ปัญหาใหญ่คือ ต้องมีเครื่องบินเพียงพอ โดยเราได้ประสาน AirAsia ที่จะสามารถให้เครื่องบินได้ 2 ลำ หรือมากกว่า สายการบิน NokAir ก็จะมีอย่างน้อย 2 ลำ และการบินไทยก็อยู่ระหว่างการพิจารณา ตอนนี้เราพยายามนำเครื่องบินมาให้ได้เร็วที่สุด เพื่อบินเข้ามาและรับออกจากอิสราเอลเพื่อไปจอดยังประเทศข้างเคียง และกลับไปรับใหม่ เพื่อทำให้คนออกจากประเทศอิสราเอลโดยเร็วที่สุด พรุ่งนี้ก็สามารถออกได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องให้มั่นใจว่า เมื่อไปถึงแล้วคนไทยพร้อมที่จะออกมา เพราะการเดินทางในอิสราเอลนั้นสามารถใช้ได้เฉพาะรถทหารเท่านั้น 

 

ส่วนเครื่องบินของรัฐมีอยู่ 5 ลำ ดังนั้น เตรียมไว้ 9 ลำหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า อาจจะมีมากกว่านั้น เพราะขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังเจรจาอยู่ 

 

“เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องเล็ก เท่าไรก็จ่าย เท่าไรก็ต้องออกไปให้ได้ เพื่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุด แต่ทั้งนี้ปัญหาที่ตามมาคือ ไม่แน่ใจว่าน่านฟ้าจะเปิดนานเท่าไร และอีกปัญหาคือ การลำเลียงคนเข้ามายังสนามบินได้มากเท่าไร เพราะหากนำเครื่องบินมาจอดทิ้งไว้และไม่สามารถลำเลียงคนมาได้ก็จะเปล่าประโยชน์” เศรษฐากล่าว 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากเราไม่ได้เตรียมพร้อมและไม่เตรียมเครื่องบินไว้ก็จะเสียโอกาสไป เพราะก็มีโอกาสที่น่านฟ้าจะปิดในเร็ววันนี้ ดังนั้น การปฏิบัติการเราต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะต้องเตรียมพร้อม และอาจจะต้องบินเข้าไปก่อน และเข้าไปเสี่ยงว่าจะสามารถนำประชาชนคนไทยออกมาได้หรือไม่ 

 

เศรษฐาย้ำว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่ในอิสราเอลสูงที่สุด ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจ และประสานงานอยู่ตลอดต่อเนื่อง และพรุ่งนี้เช้าน่าจะมีการอัปเดตสถานการณ์อีกครั้ง ขอให้ติดตามฟังข่าวต่อไป 

 

ส่วนเครื่องบินพาณิชย์ ยอมรับว่ามีค่าใช้จ่าย แต่เขาระบุว่าจะคิดแค่ค่าน้ำมัน ย้ำว่าค่าใช้จ่ายนั้นถือเป็นเรื่องรอง ตอนนี้เรื่องที่สำคัญกว่าคือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทย ขณะนี้ทุกคนยังปลอดภัยอยู่ แต่จะทำอย่างไรให้ทั้ง 5,000 คนมาอยู่ในที่ปลอดภัยก่อนที่จะอพยพกลับเมืองไทย แต่หากอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้วเครื่องบินไม่มารับก็จะมีปัญหาอีก หรือหากเครื่องบินมาแล้วไม่สามารถขึ้น-ลงได้ก็มีปัญหาอีก ทั้งนี้ รัฐบาลมีความพร้อมที่จะนำเครื่องบินมาให้ได้เยอะที่สุด 

 

นายกรัฐมนตรียอมรับว่า แนวโน้มคนไทยที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์เลวร้ายลงไป

 

“หากน่านฟ้าเปิดตลอดและสถานการณ์ลดความรุนแรงลงก็ยังมีความหวัง แต่ถ้าเราเสี่ยงไม่ได้ ตรงนี้อาจจะต้องเตรียมเครื่องบินให้เยอะกว่านั้น จะได้อพยพคนไทยกลับมาอย่างปลอดภัยได้เร็วที่สุด” เศรษฐากล่าว 

 

ส่วนสื่อของอิสราเอลรายงานว่า พบคนไทยจำนวน 14 คนในเขตพื้นที่กาซา ได้รับรายงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แต่หวังว่าจะเป็นเรื่องจริง และหวังว่าทุกคนจะปลอดภัย เพราะก็มีความเป็นไปได้เนื่องจากแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ที่นั่น เมื่อเกิดเหตุระเบิดลงต่างคนต่างหนีตัวเปล่า เหตุการณ์ชุลมุน เอกสารและพาสปอร์ตก็ไม่มี แต่เรื่องเอกสารเป็นเรื่องทีหลังมากกว่า โดยกระทรวงการต่างประเทศก็สมทบเจ้าหน้าที่พื้นที่ใกล้เคียงเป็นอาสาสมัครไปช่วยดำเนินการเรื่องเอกสาร ทำให้ประชาชนออกมาโดยเร็วที่สุด ตนได้สั่งการไปว่าเรื่องของเอกสารขอให้เป็นเรื่องรอง ความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด 

 

นายกรัฐมนตรียังระบุด้วยว่า ตอนนี้พบคนไทยเสียชีวิต 20 ราย และหวังว่าจะเป็นตัวเลขที่จบแล้ว แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้เพราะการต่อสู้ก็ยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราจึงพยายามอพยพคนไทยให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ทุกวิถีทาง ขอขอบคุณภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมในการช่วยนำคนไทยออกมา และเท่าที่ดูจากตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้น ต้องยอมรับว่าไทยเป็นประเทศที่มีการสูญเสียสูงที่สุดประเทศหนึ่ง ก็หวังว่ารัฐบาลอิสราเอลคงจะเห็นใจและจะช่วยอำนวยความสะดวกนำรถทหารมาส่งประชาชนคนไทยกลับบ้านโดยเร็วที่สุด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X