×

โพล ม.ศรีปทุม-ดีโหวต ชี้หากเลือกตั้งใหม่ได้ พร้อมกาก้าวไกลเพิ่มขึ้น 62.39% แนะเพื่อไทยทำนโยบายให้สำเร็จหยุดคะแนนไหลดึงคนกลับมาเลือก

โดย THE STANDARD TEAM
26.08.2023
  • LOADING...

วานนี้ (25 สิงหาคม) มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ร่วมกับดีโหวต (D-vote) เผยผลการวัดคะแนนนิยมหลังจากการเลือกตั้ง เพื่อประเมินความพึงพอใจและการตอบสนองความคาดหวังของประชาชนจากแต่ละพรรคการเมือง ภายหลังได้รับเสียงเลือกจากประชาชนไปแล้ว 

 

โดยในประเด็น ‘หากมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งในวันนี้ คุณจะเลือกพรรคใด’ สำรวจระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม 2566 พบว่า ค่าความเชื่อมั่นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งสูงสุด 6 อันดับแรก มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของคะแนนนิยมเฉลี่ยจากเพิ่มขึ้นไปน้อยลงตามลำดับ ดังนี้

 

  • พรรคก้าวไกล คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 62.39
  • พรรคภูมิใจไทย คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.50
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 0.84
  • พรรคพลังประชารัฐ คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 6.02
  • พรรคประชาธิปัตย์ คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 9.96
  • พรรคเพื่อไทย คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 62.24

 

ทั้งนี้คะแนนนิยมที่ลดลงของพรรคเพื่อไทยร้อยละ 51.32 ได้ไหลไปหาพรรคก้าวไกล ในขณะที่ร้อยละ 10.92 ได้ไหลไปหาพรรคอื่นๆ 

 

ส่วนประเด็น ‘คุณคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่นำโดยพรรคเพื่อไทยเกิดจากความตั้งใจตั้งแต่แรกหรือไม่’ พบว่า ร้อยละ 58.79 ระบุว่า เกิดจากความตั้งใจตั้งแต่แรก เป็นการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วระหว่างเพื่อไทยและขั้วรัฐบาลเดิม ร้อยละ 25.20 ระบุว่า ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจตั้งแต่แรก เมื่อการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคถึงทางตัน จึงต้องปรับแผนด้วยการข้ามขั้ว และร้อยละ 16.02 ระบุว่า ไม่รู้/ไม่แน่ใจ

 

สำหรับเหตุผลของผู้ตอบว่า “เกิดจากความตั้งใจแต่แรกที่พรรคเพื่อไทยจึงตั้งใจวางแผนจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว” นั้น ร้อยละ 36.52% ระบุว่า เพราะคิดว่าการให้ก้าวไกลร่วมรัฐบาลและได้มีโอกาสทำผลงาน จะส่งผลเสียต่อความนิยมของเพื่อไทยในอนาคต ร้อยละ 28.52 ระบุว่า เพราะคิดว่าการมีก้าวไกลทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่มีทางสำเร็จ ร้อยละ 22.07% ระบุว่า เพราะคิดว่าการมีก้าวไกลถึงจะตั้งรัฐบาลสำเร็จ แต่ไม่นานก็ถูกกลุ่มอำนาจเก่าล้มอยู่ดี และร้อยละ 12.89 ระบุว่า ไม่รู้/ไม่แน่ใจ

 

ด้านประเด็น ‘นโยบายรัฐบาลเพื่อไทยข้อใดที่คุณอยากให้ทำสำเร็จมากที่สุด 3 อันดับแรก’ พบว่าร้อยละ 40.41 ระบุว่า ค่าแรง 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ร้อยละ 39.95 ระบุว่า กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ร้อยละ 37.47 ระบุว่า ปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ร้อยละ 32.51 ระบุว่า จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่ต่อต้านการรัฐประหาร และร้อยละ 23.70 ระบุว่า ปฏิรูประบบราชการและทหาร 

 

โดยกลุ่มตัวอย่างระบุเพิ่มเติมว่าหากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลสามารถทำนโยบายดังกล่าวได้สำเร็จ ในการเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสจะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาล ร้อยละ 27.31 ระบุว่า เลือกแน่นอน​ และร้อยละ 24.15 ระบุว่า อาจจะเลือก

 

สำหรับประเด็น ‘ท่านเห็นชอบหรือไม่? ว่าประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน’ พบว่า ร้อยละ 75.53 ระบุว่า เห็นชอบ ควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ร้อยละ 12.14 ระบุว่า ไม่เห็นชอบ ควรแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ร้อยละ 3.85 ระบุว่า ไม่เห็นชอบ ไม่ควรแก้รัฐธรรมนูญเลย 

 

ในขณะที่ประเด็นที่มาของ สสร. ร้อยละ 82.34 ระบุว่า สสร. ควรมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งหมด ร้อยละ 9.17 ระบุว่า สสร. ควรมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนบางส่วน และมาจากการแต่งตั้งบางส่วน และร้อยละ 2.52 ระบุว่า สสร. ควรมาจากการแต่งตั้งทั้งหมด

 

ทั้งนี้ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอแนะเพิ่มเติมถึงสิ่งที่ควรปรับปรุงในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เช่น

 

  • อำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีควรเป็นของ ส.ส. ที่มาจากประชาชนโดยตรง โดยไม่มีอำนาจของ ส.ว.
  • ที่มาของ ส.ว. ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
  • ประเด็นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
  • ประเด็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
  • การป้องกันรัฐประหาร
  • คำนึงถึงหลักการประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นหลัก เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศได้อย่างแท้จริง 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising