×

ขุนพันธ์ 3 หนังปิดไตรภาคที่บ้าขั้นสุด เท่เกินพิกัด และเปี่ยมมนตร์ขลัง จนไม่อยากให้จบแค่นี้

02.03.2023
  • LOADING...

เดินทางมาถึงบทสรุปกันแล้ว สำหรับ ขุนพันธ์ 3 ภาพยนตร์แอ็กชันฮีโร่ไทยจากผู้กำกับ โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่ถือเป็นการปิดไตรภาคจักรวาลขุนพันธ์อย่างเป็นทางการ โดยยังคงได้ อนันดา เอเวอริงแฮม กลับมารับบท ขุนพันธ์ เช่นเดิม พร้อมด้วยทีมนักแสดงชุดใหม่อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ, โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์, ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา, เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ และ พลอย-ชิดจันทร์ ห่ง 

 

 

เรื่องราวในภาคนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ขุนพันธ์ (อนันดา เอเวอริงแฮม) ถูกนำตัวมาสอบสวนในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นของกลุ่มโจรเสือฝ้าย ทำให้เขาถูกสั่งย้ายไปประจำการที่บ้านเกิด และเขาได้ใช้ชีวิตร่วมกับ ครูนู่น (พลอย-ชิดจันทร์ ห่ง) ภรรยาและลูกในท้อง เฉกเช่นคนธรรมดา 

 

ขณะเดียวกัน เสือมเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ เสือดำ (โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) สองเสื้อร้ายอาคมกล้าแห่งภาคกลาง ก็ยังคงเดินหน้าออกปล้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุให้ขุนพันธ์ถูกไหว้วานให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อปราบปรามสองเสื้อร้ายอีกครั้ง  

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง: 

 


 

 

เมื่อเรามองย้อนกลับไปตั้งแต่ ขุนพันธ์ ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2559 ว่ากันตามตรง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูจะมีความขาดๆ เกินๆ อยู่พอสมควร ทั้งการออกแบบฉากแอ็กชันและวิชวลเอฟเฟกต์ที่ยังไม่ลงตัวมากนัก หรือกลวิธีการนำเสนอที่ยังไม่ชวนให้เราติดตามเท่าที่ควร (เว้นเพียงการแสดงของ น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ที่ตีความและถ่ายบทบาทของ อัลฮาวียะลู ออกมาได้อย่างจดจำ)

 

แต่เมื่อภาพยนตร์ ขุนพันธ์ 2 ออกฉายในปี 2561 เราจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนถึงองค์ประกอบหลายๆ ส่วนที่ถูกพัฒนาให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับทิศทางให้ฉากแอ็กชันแฟนตาซีมีความชัดเจนและแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงกลวิธีการนำเสนอที่ตรงไปตรงมามากขึ้น และการออกแบบคาแรกเตอร์ของทุกตัวละครที่สร้างสรรค์มาได้อย่างมีเสน่ห์ไม่แพ้ภาคแรก

 

และตอนนี้เราก็มาถึง ขุนพันธ์ 3 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ปิดไตรภาคจักรวาลขุนพันธ์กันแล้ว ผู้เขียนคิดว่านี่คือภาคที่ผู้กำกับและทีมสร้างอัปสเกลของภาพยนตร์ให้ ‘ไปสุดทุกด้าน’ มากกว่า 2 ภาคที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด จนเราอาจกล่าวได้ว่า นี่คือ ขุนพันธ์ ภาคที่บ้าขั้นสุด เท่เกินพิกัด และเปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์ ก็คงไม่เกินจริงนัก

 

 

ประการแรกคือ การออกแบบฉากแอ็กชันที่ลงตัวมากขึ้น ทั้งฉากบนรถไฟที่ดูสมจริงสมจังมากขึ้นกว่าภาคแรก ฉากการเปิดตัวเสือมเหศวรและเสือดำที่สร้างภาพจำให้เราได้ตั้งแต่แรกเห็น ฉากดวลตัวต่อตัวระหว่างขุนพันธ์และเสือดำที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเรื่อง ฉากแอ็กชันใหญ่ในช่วงท้ายเรื่องที่มีการลำดับเหตุการณ์ในแต่ละช่วง เพื่อปลุกเร้าความตื่นเต้นให้ผู้ชมได้เป็นอย่างดี รวมถึงการแบ่งแอร์ไทม์ให้แต่ละตัวละครได้โชว์ฝีไม้ลายมือของตัวเองได้อย่างเหมาะสม 

 

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เข้ามาเสริมให้ฉากแอ็กชันดุเดือดมากขึ้นคือ งานสเปเชียลเอฟเฟกต์และวิชวลเอฟเฟกต์ ที่เสริมให้การใช้คาถาอาคมของขุนพันธ์และเหล่าเสือนั่นเปี่ยมมนตร์ขลัง ไปจนถึงเหล่าภูตผีปีศาจที่ตบเท้ามาร่วมสร้างความชุลมุนในสมรภูมิครั้งนี้อย่างเนืองแน่น บวกด้วยงานโปรดักชันส่วนอื่นๆ อย่างเช่น การออกแบบมุมกล้อง ดนตรีประกอบ การออกแบบเสื้อผ้า หน้าผม ที่ทำให้การต่อสู้สุดท้ายอัดแน่นไปด้วยฉากเท่ๆ มากมายให้เราจดจำ ซึ่งทั้งหมดนี้ยังทำให้เราสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมสร้างที่บรรจงสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันเหล่านี้ให้ออกมายิ่งใหญ่และสมบูรณ์แบบมากที่สุดไปพร้อมกันอีกด้วย   

 

 

นอกจากฉากแอ็กชันที่เรียกได้ว่าระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันแบบไม่ยั้ง ขุนพันธ์ 3 ยังเป็นภาพยนตร์ที่พาเราเข้าไปสำรวจแง่มุมที่ ‘เปราะบาง’ ของมือปราบคงกระพันอย่างขุนพันธ์มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับความตาย และการตั้งคำถามต่อความศรัทธาของตัวเองว่า สิ่งที่เขาเคยทำไปทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วแน่หรือ รวมถึง ‘คุณธรรม’ และ ‘กฎหมาย’ ที่เขาเชื่อมั่นนั้นได้ทำหน้าที่มอบความเป็นธรรมแก่ผู้คนอย่างที่ควรจะเป็นจริงๆ หรือไม่ หรือมันกำลังถูกผู้มีอำนาจบางคนใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ตนเองอยู่กันแน่ 

 

มาถึงองค์ประกอบที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนั่นคือ สองเสือร้ายอาคมกล้าอย่างเสือมเหศวรและเสือดำ ที่ออกแบบคาแรกเตอร์ได้อย่างมีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม ที่ช่วยขับเน้นความเท่และดุดันของตัวละครให้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการแสดงของมาริโอ้และโตโน่ที่นำเสนอเรื่องราวของตัวละครออกมาได้น่าสนใจไม่แพ้ตัวละครหลักอย่างขุนพันธ์ ทั้งเสือมเหศวรที่มาพร้อมความเฉลียวฉลาด เจ้าแผนการ และมีความเป็นผู้นำสูง และเสือดำที่เคร่งขรึม ดุดัน ตรงไปตรงมา และน่าเกรงขาม

 

สำคัญที่สุด เรื่องราวและอุดมการณ์ของเสือทั้งสองยังชวนให้เราตั้งคำถามต่อผู้รักษากฎหมายไปจนถึงผู้มีอำนาจมากมายที่พร่ำบอกว่า มีหน้าที่ปกป้องผู้คน พวกเขากำลังทำเพื่อผู้คนจริงๆ หรือเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของตนเองไว้กันแน่ ซึ่งน่าแปลกที่ฉากหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกวางไว้ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่บางคำพูดของตัวละครก็ชวนให้เรารู้สึกคุ้นเคยเหมือนสิ่งเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

อย่างไรก็ตาม ขุนพันธ์ 3 ก็มีข้อสังเกตที่เราแอบติดขัดอยู่เช่นกัน ประการแรกคือ การพยายามสอดแทรกฉากบางฉากที่เราคิดว่ามันไม่ได้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเรื่องราวเข้ามามากจนเกินไป เช่น การแฟลชแบ็กหลายๆ ฉากที่เราคิดว่าสามารถเล่าผ่านบทสนทนาแทนได้ หรือฉากแอ็กชันเล็กๆ น้อยๆ ที่เราคิดว่าหากนำออกไปก็น่าจะทำให้ตัวภาพยนตร์มีความกระชับมากขึ้น 

 

อีกหนึ่งข้อสังเกตที่เราติดขัดเป็นการส่วนตัวคือ กลวิธีการนำเสนอที่ผู้กำกับพยายามสร้างความสลับซับซ้อนให้กับเรื่องราวมากเกินไปสักหน่อย เช่น การหักเหลี่ยมเฉือนคมของตัวละครที่เรารู้สึกว่ายังไม่น่าสนใจเท่าไรนัก จนบางฉากหากผู้กำกับลองลดความซับซ้อนของเรื่องลงอีกสักหน่อย ก็อาจทำให้ตัวภาพยนตร์มีความลื่นไหลและกลมกล่อมมากขึ้นกว่านี้ 

 

 

ในภาพรวม แม้ว่าจะมีข้อสังเกตที่เรารู้สึกติดขัดอยู่บ้าง แต่ ขุนพันธ์ 3 ก็ยังเป็นภาพยนตร์ฮีโร่ไทยที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์ที่ชวนให้เราหลงใหลและสนุกสนานไปกับเรื่องราวที่ผู้สร้างต้องการนำเสนอ 

 

ทั้งการออกแบบคาแรกเตอร์ที่จัดจ้าน ฉากแอ็กชันที่ถูกอัปสเกลให้ยิ่งใหญ่สมกับการปิดไตรภาค การออกแบบคาถาอาคมและความแฟนตาซีที่สร้างสรรค์ งานโปรดักชันที่เราสัมผัสได้ถึงแพสชันของทีมงานเบื้องหลังอย่างชัดเจน รวมถึงการหยิบนำประเด็นทางการเมืองมาร้อยเรียงเข้ากับเรื่องราวเหนือจินตนาการได้อย่างน่าสนใจ จนทำให้เราพร้อมที่จะโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบบางจุดและปรบมือให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความยินดี

 

ซึ่งเราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่า ขุนพันธ์ 3 คือภาพยนตร์ไทยที่ต้องดูในโรงภาพยนตร์เท่านั้นจริงๆ เพราะคงมีโอกาสไม่บ่อยนักที่เราจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายภาพยนตร์ฮีโร่ไทยแบบนี้ในโรงภาพยนตร์ 

 

ขุนพันธ์ 3 เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

รับชมรายการ On That Day EP.33 อนันดา เอเวอริงแฮม 40 ปีที่ทำให้รู้ว่า ศูนย์กลางจักรวาลไม่ใช่เรา ได้ที่:

 

 

รับชมรายการ On That Day EP.34 มาริโอ้ เมาเร่อ ความรัก ความจริง และสิ่งสมมติ ได้ที่: 

 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่:

 

 

ภาพ: สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising