ดูเหมือนว่าเอกมัยซอย 2 กำลังจะมีอะไรคึกคักให้คนรักการกินดื่มได้กลับไปเที่ยวกันอีกครั้ง เพราะบนชั้น 2 ของร้านอาหารเหนือ ‘หอมด่วน’ กำลังถูกปรับปรุงเตรียมเปิดเป็น All Day Spot ที่เป็นทั้งคาเฟ่ในตอนกลางวัน และบาร์ในตอนกลางคืน
แต่เหตุผลที่ทำให้เราต้องรีบแวะไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั่นก็เพราะ ภายในพื้นที่ทั้งหมดยังแบ่งเป็นห้องย่อยให้กับ Sparrow Pizza Studio ร้านพิซซ่าโฮมเมด ที่เปิดให้บริการแบบซอฟต์โอเพนนิงแล้วก่อนส่วนอื่นๆ ซึ่งผู้อยู่เบื้อหลังเตาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น นาถ-เมนาถ สีกาลา เชฟอาหารอิตาเลียนผู้ที่คร่ำหวอดในวงการขนมปังมานาน
ที่นี่นาถเลือกใช้แป้งพิซซ่าเป็นซาวโดว์ที่พักเอาไว้นาน 48 ชั่วโมง แป้งอบออกมาเหนียวนุ่มมากๆ ด้านในเป็นโพรงอากาศสวยงาม ส่วนท็อปปิ้งทั้งหมดนั้นมีให้เลือกเวอร์ชันคลาสสิก และพิเศษตามฤดูกาล เรื่องวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้น คุณนาถเล่าว่าจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างวันที่เราไปทั้งหมดมาจากเชียงใหม่ ส่วนพอหน้าฝนมาถึงจะเป็นฤดูที่วัตถุดิบจากอีสานออกมาดีที่สุด ก่อนจะไปภาคใต้ตอนหน้าหนาว
เราเลือก Juicy Marinara (350 บาท) หน้าคลาสสิกที่ต้องลอง หน้านี้เป็นซอสมะเขือเทศสดที่ออกสีส้มหน่อย มะเขือเทศที่ใช้มีสองสายพันธ์ุคือ Hana และ Yamato ทั้งสองสายพันธ์ุมาจากญี่ปุ่นแต่ปลูกที่เชียงใหม่ ให้รสที่แตกต่างกันจึงนำมาเบลนด์เข้าด้วยกันในถาดเดียวเพื่อความหวานสดชื่น ท็อปด้วยกระเทียม โหระพา และออริกาโนสด เป็นอันเรียบร้อย
ถัดมาเป็นเมนูตามฤดูกาลอย่าง Summer Fig & Brie (420 บาท) เลือกใช้ลูกฟิกจากเชียงใหม่ ชีสมอซซาเรลลา บรี ท็อปด้วยพาร์เมซานขูดก่อนอบ และโรยด้วยบัลซามิกก่อนเสิร์ฟ ใครที่อ่านชื่อแล้วกลัวจะเป็นพิซซ่าหวาน ไม่ต้องกลัวเลยเพราะถาดนี้หวานเค็มลงตัวมาก
ด้วยความเป็นครัวเล็กๆ ที่จัดเคาน์เตอร์ที่นั่งไว้ด้านหน้าสเตชันทำพิซซ่า ความรู้สึกเลยอบอุ่นเหมือนแวะมาที่บ้านแล้วให้นาถทำอาหารให้กิน ที่สำคัญจังหวะที่ได้กินตอนอบออกมาร้อนๆ นี่แหละชนะทุกอย่าง แถมนั่งดูอยู่ตรงนั้นทั้งที สงสัยอะไรสอบถามกับนาถได้เลย
ตอนนี้ Sparrow Pizza Studio เปิดแบบ Soft Opening จำกัดพิซซ่าวันละ 24 ถาด ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของร้านหอมด่วน เอกมัยซอย 2 เปิดเวลา 17.00-21.00 น. เราว่าโทรถาม หรือจองก่อนล่วงหน้าอาจจะดีที่สุด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://instagram.com/sparrowpizzastudio